ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นมา จีนลงดาบปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นเฉียบขาดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดำเนินความร่วมมือกับรัฐบาลต่างประเทศด้านการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นอย่างไม่เคยมีมาก่อน เพื่อไล่จับผู้หลบหนีออกนอกประเทศพร้อมของกลางและนำส่งตัวกลับประเทศ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุที่กรุงปักกิ่งว่า ปัจจุบัน การทุจริตมีลักษณะข้ามชาติชัดขึ้น แต่ละประเทศมีเพียงให้ความร่วมมือกันทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพิ่มความร่วมมือด้านการประสานงานยุติธรรมและการส่งตัวกลับประเทศเท่านั้น จึงจะทำให้ผู้ทุจริตคอรัปชั่นไร้ที่หลบหนี และให้ของกลางกลับคืนสู่เจ้าของได้ ดังนั้น ประเทศต่างๆ จึงควรให้ความร่วมมือกับจีนในการบังคับใช้กฎหมายปราบปรามการทุจริตข้ามชาติมากขึ้น

ในการแถลงข่าววันเดียวกัน นายสวี หง อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า ตั้งแต่ทศวรรษปี 1980 เป็นต้นมา กระทรวงการต่างประเทศจีนกับสถานทูตและสถานกงสุลจีนประจำต่างประเทศก็เริ่มร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดีไล่จับผู้ต้องหาที่หลบหนีไปต่างประเทศพร้อมของกลาง โดยกระทรวงการต่างประเทศมีหน้าที่หลักในการเจรจากับต่างประเทศเพื่อทำสนธิสัญญาความร่วมมือทางยุติธรรม และสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางกฎหมายว่าด้วยการไล่จับผู้ต้องหาที่หลบหนีไปยังต่างประเทศพร้อมของกลาง

โดยได้ลงนามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับฝรั่งเศส สเปน และอิตาลี ตามลำดับ รวมถึงลงนามสนธิสัญญาการให้ความร่วมมือทางยุติธรรมและอาญากับสหรัฐอเมริกา แคนาดา ฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ และเบลเยียม ตามลำดับ ทั้งนี้เนื่องจากประเทศที่พัฒนาแล้วในตะวันตกเป็นแหล่งหลบหนีสำคัญสำหรับพวกฉ้อราษฎร์บังหลวงจีนที่หลบหนี

ช่วงปีหลังๆ นี้ จีนยังประสบผลคืบหน้าในความร่วมมือปราบปรามทุจริตภายใต้กลไกพหุภาคีของโลก เช่น สนธิสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการปราบปรามทุจริต คณะทำงานเพื่อปราบปรามทุจริตแห่งเอเปค และจี20 ซึ่งมีส่วนส่งเสริมเจตจำนงทางการเมืองของประเทศต่างๆ ในการให้ความร่วมมือด้านการไล่ล่าผู้หลบหนีพร้อมของกลางอย่างจริงจัง

（IN/LING）