เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียได้เดินทางไปยังกรุงนิวเดลีของอินเดียอย่างเงียบๆ เป็นเวลา 1 วัน เขากับนายกรัฐมนตรีนาเรนทรา โมดี ของอินเดียจัดการเจรจาสองต่อสอง ผู้นำทั้งสองร่วมกันเป็นประธานการประชุมสุดยอดทวิภาคีรัสเซีย-อินเดียและลงนามข้อตกลง ทั้งยั้งได้พบปะกับนักธุรกิจ และเข้าพบประธานาธิบดีพราทับ มุคเฮร์จี ของอินเดีย ก่อนเสร็จสิ้นการเยือนกลับประเทศ โดยไม่มีพิธีต้อนรับและงานเลี้ยงขนาดใหญ่
การเยือนอินเดียของนายปูตินอย่างเงียบๆ แต่ประสบผลสำคัญครั้งนี้ สะท้อนให้ถึงจุดที่น่าสนใจของสถานการณ์ระหว่างประเทศหลายประการคือ
1. ภายใต้การเปลี่ยนแปลงใหญ่ของสถานการณ์ระหว่างประเทศ นายปูตินและนายโมดียังคงยืนหยัดในมิตรภาพระหว่างสองประเทศที่มีมานานกว่า 60 ปี การเยือนอินเดียของนายปูตินเพียง 1 วัน กลับได้ลงนามข้อตกลง 20 รายการ นายโมดีประกันว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงการสั่งซื้อยุทโธปกรณ์ป้องกันประเทศ 70% จากรัสเซีย
2. การที่นายโมดีกล้าจัดการประชุมสุดยอดอินเดีย-รัสเซียครั้งนี้ท่ามกลางเสียงคัดค้านรัสเซียของประชาคมโลก และสหรัฐฯ เป็นการประกาศอย่างเปิดเผยว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเยือนอินเดียของประธานาธิบดีโอบามา ที่จะเป็นแขกสำคัญในพิธีฉลองวันชาติเดือนมกราคมปีหน้านี้ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า อินเดียเป็นคนกลางที่มีความสำคัญมากระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ
3. อินเดียจากที่เคยสั่งซื้อเครื่องบินรบจากรัสเซียมาโดยตลอด กลับมาสั่งซื้อเครื่องบินรบจากฝรั่งเศสและเฮลิคอปเตอร์รบของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า ในอนาคต อินเดียจะมีการติดต่อด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีกับยุโรปและสหรัฐฯ มากขึ้น แต่ความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีระหว่างอินเดียกับสหรัฐฯ ยังมีอนาคตกว้างใหญ่ รัสเซียกำลังช่วยอินเดียผลิตเรือดำน้ำ การประชุมครั้งนี้ยังได้บรรลุซึ่งข้อตกลงด้านการร่วมกันออกแบบ บุกเบิก ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงผลิตภัณฑ์ด้านการป้องกันประเทศและเทคโนโลยีอวกาศด้วย
Toon/Lr