เมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียแปซิฟิกแห่งสหประชาชาติ(เอสแคป)ได้ประกาศรายงานที่กรุงเทพฯ ว่า เศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะฟื้นฟูการเติบโตอย่างเชื่องช้าในปี 2015 ส่วนราคาน้ำมันดิบระหว่างประเทศที่ได้ลดลงมาเรื่อยๆ ในเร็วๆ นี้จะเป็นโอกาสที่ดีในการโยกย้ายต้นทุนและดำเนินการปฏิรูปรูปแบบพัฒนา ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต้องดำเนินการปฏิรูปเกี่ยวกับโครงสร้างให้กว้างขวางยิ่งขึ้น จึงจะเป็นแรงกระตุ้นยั่งยืนต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ
รายงานคาดการณ์ฉบับล่าสุดของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียแปซิฟิกที่ได้ประกาศเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมาระบุว่า เศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะฟื้นฟูการเติบโตอย่างเชื่องช้าในปี 2015 อัตราเติบโตเฉลี่ยทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคดังกล่าวนี้จะเป็นร้อยละ 5.8 นางชามฉัด อัคตาร์ (Ms. Shamshad Akhtar) เลขาธิการบริหารคณะกรรมาธิการฯ กล่าวในวันเดียวกันว่า แม้ว่าการคาดคะเนดังกล่าวนี้สูงกว่าอัตราเติบโตที่เป็นร้อยละ 5.6 ของปี 2014 แต่เนื่องจากแรงกดดันทั้งในและนอกประเทศ เศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยากที่จะกลายเป็นระดับการพัฒนาในปี 2008-2009 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ
นางชามฉัด อัคตาร์กล่าวว่า แม้ว่าได้คาดคะเนว่าการพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีอนาคตที่ดี แต่ยังคงมีปัญหาที่ซ้อนอยู่ในระดับลึก การปฏิรูปเกี่ยวกับโครงสร้างจะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาระยะยาวของเศรษฐกิจประเทศในภูมิภาค
เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบระหว่างประเทศลดลงเมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมาธิการฯ คาดว่าอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชียเหนือและเอเชียกลางในปี 2015 เพียงเป็นร้อยละ 0.2 ส่วนเศรษฐกิจของรัสเซียในปี 2015 จะลดเป็นร้อยละ 0.8 นางชามฉัด อัคตาร์ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบระหว่างประเทศลดลงอย่างต่อเนื่องนั้น จะเป็นผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศส่วนใหญ่ในภูมิภาค แต่สำหรับประเทศส่งออกน้ำมันดิบต่างๆ เช่น รัสเซีย จะเป็นปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจซบเซาลงรุนแรงยิ่งขึ้น
(Yim/zheng)