ช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา กลุ่มผู้นำจีนมีแนวคิดการบริหารประเทศชัดเจนยิ่งขึ้น นั่นคือ การสร้างสังคมพอกินพอใช้ในทุกด้าน ส่งเสริมการปฏิรูปอย่างลึก ส่งเสริมกระบวนการบริหารประเทศตามกฎหมาย การปรับปรุงพรรคฯ ให้สมบูรณ์แบบโปร่งใสสุจริตยิ่งขึ้น

เมื่อ 2 ปีก่อน ขณะที่กลุ่มผู้นำจีนชุดใหม่รับไม้การบริหารอำนาจรัฐ จีนกำลังเข้าสู่ขั้นสำคัญของการสร้างสังคมพอกินพอใช้ทุกด้าน นายสี

จิ้นผิงกล่าวว่า ถ้าหากไม่สามารถทำให้ประชาชนทั้งปวงมีสุขภาพแข็งแรง ก็ไม่อาจมีสังคมพอกินพอใช้ทุกด้าน ถ้าหากไม่สามารถทำให้ประชาชนในชนทท โดยเฉพาะเขตยากจนซ้ำซากพอกิน เราก็ไม่สามารถกล่าวว่าได้สร้างสังคมพอกินพอใช้ทุกด้านแล้ว

ดังนั้น ช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา แนวคิดชี้นำการทำงานของกลุ่มผู้นำจีนคือ ส่งเสริมเศรษฐกิจให้เติบโตพฒนาอย่างมั่นคง ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้มีระดับสูงขึ้น ส่งเสริมการปฏิรูปอย่างลึก แก้ไขปัญหาความยากจน พิชิตมลภาวะ พยายามยกคุณภาพและประสิทิภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจให้สูงขึ้น เป็นต้น

ด้านการปฏิรูป ปัจจุบัน การปฏิรูปของจีนกำลังเข้าสู่ขั้นลึก อย่างเช่น ปัจจุบัน ทั่วประเทศจีนมีข้าราชการจำนวน 7 ล้านคน เจ้าหน้าที่หน่วยงานทางการอีกกว่า 30 ล้านคน จำเป็นต้องลดจำนวนให้น้อยลง

สิ้นปี 2014 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และที่ประชุมคณะกรรมการประจำกรมการเมือง ได้ผ่านร่างปฏิรูประบบประกันคนชรา และยื่นต่อที่ประชุมคณะกรรมการประจำสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติเพื่อพิจารณา

ช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ยกเลิกอำนาจการตรวจสอบทางการบริหารกว่า 700 รายการ ส่งเสริมให้นักธุรกิจเอกชนไปร่วมลงทุนกับธนาคาร เริ่มปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ ปฏิรูปกลไกการคลังภาษีอากร ปฏิรูประบบที่ดินในชนบท มาตรการเหล่านี้ ได้กระตุ้นให้ตลาดคึกคักยิ่งขึ้น เพิ่มพลังขับเคลื่อนภายในแก่เศรษฐกิจ

ด้านการปฏิรูปการเมือง จะเน้นบทบาทการเป็นผุ้นำของพรรคฯ และถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง บริหารประเทศด้วยกฎหมาย ทำให้ระบบการบริหารประเทศมีความทันสมัยยิ่งขึ้น

ด้านประชาธิปไตย สภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติและคณะกรรมการประจำสภา ได้ทุ่มกำลังยกระดับคุณภาพในการนิติบัญญัติ สภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจะจัดการประชุมทุก 2 สัปดาห์ เพื่อให้พรรคประชาธิปไตยต่างๆ หารือปัญหาการเมืองและสังคมอย่างเต็มที่

ด้านวัฒนธรรม ส่งเสริมให้ตั้งนิคมอุตสาหกรรมนวตกรรมวัฒนธรรม ปรับปรุงเครือข่ายอินเตอร์เน็ตให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ผลักดันให้สื่อเก่าและสือใหม่ร่วมมือและพัฒนาพร้อมกัน ส่งเสริมการเผยแพร่วัฒนธรรมจีนสู่สากล มาตรการเหล่านี้ ทำให้แวดวงวัฒนธรรมจีนมีรูปแบบการพัฒนาใหม่

ด้านการปฏิรูสังคม ใช้ความพยายามปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ส่งเสริมความเสมอภาคความเที่ยงธรรมในสังคม เพื่อให้ประชาชนร่วมแบ่งปันผลสำเร็จทางเศรษฐกิจ

โดยมีมาตรการที่สำคัญ อาทิ ผลักดันการปฏิรูประบบสำมะโนประชากร ออกนโยบายการวางแผนครอบครัวฉบับใหม่ อนุญาตให้มีลูกสองคนสำหรับครอบครัวที่คู่สามีภรรยาต่างเป็นลูกคนเดียว ผลักดันการปฏิรูประบบการรับสมัครเข้าศึกษา ตลอดจนการปฏิรูประบบสาธารณสุข การปรับปรุงระบบการให้ความช่วยเหลือ เป็นต้น มาตรการเหล่านี้ ทำให้สังคมเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาแต่มีความสมานฉันท์มากยิ่งขึ้น

ด้านการอนุรักษ์ระบบนิเวศ กลุ่มผู้นำจีนเสนอให้สร้างประเทศจีนที่สวยงาม โดยมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม กฎหมายว่าด้วยการป้องกันการบำบัดมูลภาวะ โครงการปฏิบัติการป้องกันมลพิษทางอากาศ กำหนดมาตรฐานการเก็บค่าถ่ายเทของเสียให้สูงขึ้น เป็นต้น ทั้งนี้ ล้วนเพื่อให้ชาวจีนรุ่นหลังมีโอกาสใช้ชีวิตในดินแดนที่สะอาดและสวยงาม

กล่าวคือ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กลุ่มผู้นำจีนที่มีนายสี จิ้นผิงเป็นหัวหน้า ใช้ความคิดที่ละเอียด รอบคอบและมีความกล้าหาญ ออกมาตรการส่งเสริมการปฏิรูปทุกด้านกว่า 336 รายการ ทำให้การปฏิรูปของจีนคืบหน้าไปสู่ระดับที่สำคัญและลงลึกยิ่งขึ้น

การปฏิรูปบางอย่างเกินกว่าความคาดหวังของชาวบ้านทั่วไป ซึ่งแต่ก่อนไม่คิดว่า รัฐบาลกล้าทำอย่างนี้ อาทิ การปฏิรูการใช้รถยนต์ของข้าราชการ การปฏิรูปเงินเดือนของผู้รับผิดชอบรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น ซึ่งการปฏิรูปเหล่านี้ ล้วนส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของข้าราชการระดับสูงอย่างกว้างขวาง แต่ สี จิ้นผิงและกลุ่มผู้นำจีนบอกแล้วและลงมือทำจริงๆ

(In/Lin)