ฤดูใบไม้ร่วงปี 2014 เป็นอีกครั้งที่ชาวโลกจับจ้องการชุมนุมกันที่กรุงปักกิ่ง เพราะมีการจัดประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนเต็มคณะชุดที่ 14 ครั้งที่ 4 ที่ประชุมได้ผ่านมติเกี่ยวกับ "การส่งเสริมการบริหารประเทศด้วยกฎหมายทุกด้าน" ซึ่งเป็นหลักประกันเพื่อบรรลุเป้าหมายการสร้างสังคมพอกินพอใช้ เป็นเหตุการณ์เชิงประวัติศาสตร์ของจีน

โดยมีการออกมาตรการสำคัญกว่า 180 รายการ อาทิ การมอบอำนาจนิติบัญญัติแก่ท้องถิ่น กลไกตรวจสอบนโยบายสำคัญของหน่วยงานบริหาร ศาลสูงสุดจะมีการสัญจรพิจารณาคดีทั่วประเทศ ผลงานของข้าราชการระดับต่างๆ รวมถึงการส่งเสริมและพัฒนาระบบการบริหารตามกฎหมาย เป็นต้น

หนังสือพิมพ์ "ยุโรปไทมส์" ของฝรั่งเศสออกบทความว่า การบริหารประเทศด้วยกฎหมายจะกลายเป็นแนวโน้มหลักของจีนในปัจจุบัน ซึ่งเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศการปฏิรูปที่ลึกซึ้ง

นายสี จิ้นผิงกล่าวว่า การบริหารพรรคฯ อย่างเข้มงวดทุกด้านเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้พรรคฯ มีความก้าวหน้าใหม่ ๆ

แต่การบริหารพรรคฯ อย่างเข้มงวดไม่ใช่เรื่องง่ายๆ จำเป็นต้องมีความรับผิดชอบ มีความกล้าหาญและทำจริงๆ

หลังการประชุมสมัชชาผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์ทั่วประเทศจีนครั้งที่ 18 ที่จึดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2012 จนถึงขณะนี้ ทางการจีนได้สืบสวนและลงโทษข้าราชการที่มีพฤติกรรมทุจริตคอรัปชั่นระดับรัฐมนตรีขึ้นไปหลายสิบคน มีข้าราชการที่ผิดวินัยพรรคฯ จำนวนกว่า 100,000 คนถูกลงโทษตามวินัยพรรคฯ หรือวินัยการบริหาร และมีส่วนหนึ่งต้องมอบให้หน่วยงานยุติธรรมดำเนินคดีและลงโทษต่อไป ในจำนวนนี้ มีการแจ้งและเปิดโปงคดีร้ายแรงกว่า 700 คดี

จนถึงปี 2014 กระบวนการปราบปรามพฤติกรรมทุจริตคอรัปชั่นลงลึกยิ่งขึ้น ข้าราชการระดับสูงหรือที่ชาวจีนเรียกว่า "เสือตัวใหญ่" มี 4 คน ถูกจัดการ ได้แก่ นายโจว หยุ่งคัง อดีตกรรมการประจำกรมการเมืองกลางพรรคคอมมิวนิสต์ หรือ สมาชิกกลุ่มผู้นำสูงสุดสมัยที่แล้วที่มีทั้งหมด 7 ท่าน นายสวี ฉายโฮ่ว อดีตรองประธานคณะกรรมการทหารกลาง นายลิ่ง จี้หว้า อดีตรองประธานสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติ หัวหน้าฝ่ายแนวร่วมเอกภาพกลางพรรคคอมมิวนิสต์ นายซู หรง อดีตรองประธานสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติ

ชาวจีนใช้คำเปรียบเทียบว่า การนี้เป็นการใช้ยาแรงแก้โรคหนัก แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของกลุ่มผู้นำจีนชุดใหม่ ในการปราบปรามพฤติกรรมทุจริตคอรับปชั่นอย่างเด็ดขาด เพื่อสร้างพรรคฯ ให้เป็นพรรคที่สุจริตโปร่งใสและน่าเชื่อถือ

ผลงานการบริหารของกลุ่มผู้นำจีนชุดใหม่ ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนคงไว้ซึ่งแนวโน้มการเติบโตอย่างมั่นคง ยอดการค้าสินค้าขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลก มวลรวมเศรษฐกิจครองอันดับ 2 ของโลก และยังเติบโตขึ้นอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง ส่วนที่เพิ่มเติมของมวลรวมการผลิตภายในประเทศในแต่ละปีเท่ากับมวลรวมการผลิตของประเทศพัฒนาระดับกลาง

รายได้เฉลี่ยและสินทรัพย์ของประชาชาติเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการประกาศเพิ่มเงินบำนาญแก่ผู้เกษียณจากวิสาหกิจอย่างต่อเนื่องกัน 10 ครั้ง ระบบรับเลี้ยงคนชราและระบบประกันการรักษาพยาบาลพื้นฐานครอบคลุมเขตเมืองและชนบททั่วประเทศ ความฝันของจีนกำลังกลายเป็นความฝันที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์แท้จริงของประชาชนทั่วไป

หลังจากการเยือนจีนและร่วมการประชุมเอเปกแล้ว นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวชื่นชมนายสี จิ้นผิงว่า เขาใช้เวลา 2 ปีก็ทำให้ชาวจีนต่างยอมรับและชื่นชม เป็นผู้ที่น่าจับตามอง

แต่ในสายตาของนายสี จิ้นผิง เวลา 2 ปีไม่ใช่ระยะสั้นๆ แต่มีกำหนดการที่อัดแน่นมาก ได้เดินทางตรวจเยี่ยมประชาชนในท้องถิ่นต่างกว่า 20 ครั้ง รอยเท้าผ่าน 20 กว่ามณฑลและเมืองสำคัญ หรือเขตชนบทที่ทุรกันดาล

ด้านกิจการระหว่างประเทศ กลุ่มผู้นำจีนชุดใหม่ที่มีนายสี จิ้นผิงเป็นผู้นำ ใช้ความพยายามเพื่อสร้างสถานการณ์ระหว่างประเทศใหม่ ขยายอิทธิพลของจีนไปสู่ทั่วโลก โดยนายสี จิ้นผิงเดินทางเยือนต่างประเทศ 11 ครั้ง รอยเท้าไปถึง 31 ประเทศทั่วโลก พบปะเจรจากับผู้นำต่างประเทศที่มาเยือนจีนกว่า 100 ท่าน

หนังสือพิมพ์ "เอกราช" ของรัสเซียออกบทความกล่าวชื่นชมว่า บนเวทีโลกมีผู้ที่มีบทบาทสำคัญทางการเมืองคนใหม่แล้ว ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กลุ่มผู้นำจีนชุดใหม่ได้ร่วมการกำหนดระเบียบโลกอย่างแข็งขัน ออกเสียงจีน เสนอแผนการจีน แสดงออกซึ่งภูมิปัญญาของจีน และชี้นำทิศทางความร่วมมือระหว่างประเทศ อย่างเช่น การเริ่มต้นขบวนการ "1 แถบ 1 เส้นทาง" จัดตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานเอเชีย ประกาศลงทุน 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ประเดิมการตั้งกองทุนเส้นทางสายไหม ริเริ่มให้จัดตั้งธนาคารเพื่อพัฒนากลุ่มประเทศบริคส์ เสร็จสิ้นการเจรจาการค้าเสรีกับเกาหลีใต้และออสเตรเลียด้วยผลสำเร็จ เริ่มต้นกระบวนการเขตการค้าเสรีภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก เป็นต้น

เมื่อโรคอีโบลาแพร่ระบาดในทวีปแอฟริกา จีนยื่นมือช่วยเหลือต่อเพื่อนแอฟริกาในนาทีแรก โดยจัดส่งเจ้าหน้าที่รักษาพยาบาลจำนวนกว่าพันคน ให้ความช่วยเหลือคิดเป็นเงินกว่า 750 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อย่างที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประเทศ กินีบิสเซากล่าวว่า ความช่วยเหลืออย่างทันกาลของรัฐบาลจีน เหมือนกับน้ำพุใสที่ไหลผ่านดินแดนของแอฟริกา

มองอนาคตประเทศจีนที่มีความเสมอภาคและเที่ยงธรรมมากยิ่งขึ้น ย่อมจะทำให้เศรษฐกิจและสังคมพัฒนาด้วยดีอย่างยั่งยืน ประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีความรับผิดชอบ ย่อมจะร่วมมือกับชาวโลกอย่างดี เพื่อได้ประโยชน์ร่วมกัน

(In/Lin)