หนังสือพิมพ์เหรินหมินรื่อเป้ารายงานว่า การเจรจาว่าด้วยความสัมพันธ์ใหม่ด้านอาวุธนิวเคลียร์ในระดับยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริการอบใหม่ จัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ สองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในด้านอาวุธนิวเคลียร์ และอภิปรายความสัมพันธ์ใหม่ด้านอาวุธนิวเคลียร์ระดับยุทธศาสตร์ เพิ่มบทบาทต่อการรักษาความมั่นคงภายในภูมิภาคและของโลก

บริบทแวดล้อมและการดำเนินตามยุทธศาสตร์ที่จีนกับสหรัฐฯ ตลอดจนความสัมพันธ์จีน-สหรัฐในปัจจุบัน แตกต่างกันกับความสัมพันธ์สหรัฐฯ-สหภาพโซเวียดในช่วงสงครามเย็น ทำให้ความสัมพันธ์ใหม่ด้านอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างสองประเทศมีความแตกต่างกันไปด้วย ในช่วงสงครามเย็น ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-โซเวียตอยู่ในรูปแบบ "เป็นปฏิปักษ์กับเกลี้ยกล่อม" ซึ่งวิกฤตขีปนาวุธคิวบาเป็นตัวอย่างชัดเจนที่สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์นี้ ต่อไปในอนาคต ความพึ่งพาและเกื้อกูลด้านเศรษฐกิจและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างจีนกับสหรัฐฯ จะกลายเป็นส่วนประกอบสำคัญอย่างยิ่งของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ

ความต้องการในการสร้างความเชื่อถือด้านอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างจีนกับสหรัฐ ก็แตกต่างกันกับระหว่างสหรัฐฯกับโซเวียดในช่วงสงครามเย็น เพราะกำลังรบด้านนิวเคลียร์ของจีนกับสหรัฐฯมีน้ำหนักห่างกันมาก ระบบทั้งโจมตีและป้องกันอาวุธยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ มีความได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัดเหนือเมื่อเทียบกับของจีน หากเน้นไปที่ศักยภาพการจุโจมมากกว่าป้องกัน ดังนั้น ในการพัฒนาความสัมพันธ์ด้านอาวุธนิวเคลียร์แบบทวิภาคีนั้น ฝ่ายที่ได้เปรียบจำเป็นต้องรับผิดชอบมากขึ้น และลงลึกปฏิบัติให้ได้ผลที่แท้จริง

ในกระบวนการกำหนดมาตรการกระชับความเชื่อมั่นในด้านอาวุธนิวเคลียร์นั้น ทั้งสหรัฐฯกับโซเวียต หรือรัสเซียในเวลาต่อมานั้นได้เสนอแนวทางปฏิบัติไว้บ้าง เช่น รักษาความมั่นคงทางยุทธศาสตร์ของทั่วโลกและภายในภูมิภาค ไม่กระทำการที่กระทบต่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย ไม่เจาะจงต่อฝ่ายที่ 3 ลดกำลังอาวุธนิวเคลียร์ที่ไม่สมดุลเพื่อบรรลุเป้าหมายที่มีกำลังรบเท่ากัน ตลอดจนมาตรการตรวจสอบการลดกำลังรบ เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงมีผลบังคับใช้ด้านกฎหมายเพื่อคุ้มครองความเชื่อถือกันด้านอาวุธนิวเคลียร์ในปัจจุบัน

TOON/FENG