จีนกับอาเซียนต่างมุ่งยกระดับเขตการค้าเสรีให้ก้าวหน้าขึ้นผ่านโครงการและความร่วมมือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (เอไอไอบี) จัดตั้งกองทุนเส้นทางสายไหม เดินหน้าโครงการความร่วมมือกับทุกประเทศอาเซียนอย่างมั่นคง ตลอดจนสนับสนุนประเทศอาเซียนเชื่อมสัมพันธ์และติดต่อกันมากขึ้น ต่างก็เป็นหนทางที่ก้าวสู่ความเจริญรุ่งเรืองด้วยกัน

เมื่อเดือนธันวาคมปี 2013 สะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 (เชียงของ-ห้วยทราย) แล้วเสร็จและเปิดให้มีการเดินรถ ทางหลวงสายคุนหมิง-กรุงเทพฯ เปิดเดินรถตลอดเส้นทางความยาวกว่า 1,750 กิโลเมตร ชาวลาวในพื้นที่ที่ตั้งแผงลอยขายของเรียบถนนรอบๆ สะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่บริษัทจีนเริ่มช่วยก่อสร้างสะพานฯ ชาวบ้านท้องถิ่นฝั่งลาวก็มีความหวังสู่ความร่ำรวยมากขึ้น ยามว่างจากการทำนาก็หันมาทำการค้าขายกัน เมื่อสะพานเปิดเดินรถแล้ว มีรถราไปมามากขึ้น การค้าขายก็รุ่งเรืองขึ้น

ส่วนกัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม และฟิลิปปินส์ก็ได้รับเงินกู้พิเศษจากรัฐบาลจีน ทั้งเชิญบริษัทจีนเข้าไปทำการก่อสร้างในโครงการต่างๆ ทั้งทางหลวง สะพาน ชลประทาน เมืองท่า การรถไฟ ท่าอากาศยาน อุโมงค์ เทศกิจ ตลอดจนสถานีกำเนิดไฟฟ้าพลังงานน้ำ โรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน เพื่อสร้างความพร้อมให้ประชาชนอาเซียนพัฒนาและเจริญยิ่งๆ ขึ้น

ไม่เฉพาะเท่านี้ ด้านเทคโนโลยีการสื่อสารนั้น บริษัทหัวเหวยของจีนสาขาอินโดนีเซียยังช่วยเสนอสูตรแก้ไข End To End ให้กับผู้ประกอบการโทรคมนาคมของอินโดนีเซีย เพื่อพัฒนาระบบบรอดแบนด์เคลื่อนที่ของอินโดนีเซีย ทั้งนี้มีส่วนกระชับการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเป็นผลดีต่อการสร้างเส้นทางสายไหมทางทะเลศตวรรษที่ 21 ด้วย

ส่วนประเทศไทยกับจีนเมื่อปลายปีที่แล้วได้ร่วมลงนาม "บันทึกช่วยจำว่าด้วยโครงการความร่วมมือการรถไฟไทย-จีน" ระบุว่า จีนจะให้การสนับสนุนเทคโนโลยี เครื่องจักร และอุปกรณ์ทุกด้านในการสร้างทางรถไฟรางมาตรฐานสายแรกของไทย คือ สายหนองคาย-มาบตาพุด ระยะทางกว่า 800 กิโลเมตร

(TOON/LING)