กรุงเทพฯ – วันที่ 5 มีนาคม 2558 เวลา 11.00 น. มาดามชู ชิ่งหลิง ภริยาเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยเป็นตัวแทนสถานทูตจีนจัดงานเนื่องในวันสตรีสากล สำหรับงานปีนี้ใช้ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีนเป็นสถานที่จัดงานดั่งเช่นเคย ในงานมีการจัดแสดงเสื้อผ้าของสตรีชาวจีนในรูปแบบต่างๆ และการทำผ้าย้อมสีของจีนมาให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชื่นชม ไฮไลท์อยู่ที่การนำชุดผ้าไหมจีนสีแดงดำที่นางนราพร จันทร์โอชา-ภริยาของนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาใช้ในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคเมื่อปีพ.ศ. 2557 ณ กรุงปักกิ่ง มาจัดแสดง

วันสตรีสากลไม่ได้เป็นเพียงวันที่กลุ่มสตรีทั่วโลกร่วมฉลองกันเท่านั้น แต่เป็นวันที่องค์กรสหประชาชาติได้ร่วมเฉลิมฉลองด้วย หลายประเทศทั่วโลกยังได้กำหนดให้วันดังกล่าวเป็นวันหยุดประจำชาติของตน ทุกปีในวันที่ 8 มีนาคมนับเป็น "วันสตรีสากล" จะมีการจัดกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่ทั่วโลก เพื่อยกย่องการมีส่วนร่วมของสตรีและยังเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการต่อสู้และผลักดันเพื่อรับรองว่าผู้หญิงจะมีสิทธิเท่าเทียมในสังคมโดยได้รับการยอมรับและคงไว้ในทุกภาคส่วนของสังคม สำหรับวันสตรีสากลในประเทศจีนจะเรียกวันนี้ว่า "ซานปาฟู่หนู่วเจี๋ย" (三八妇女节 )หรือเรียกสั้นๆว่า "ซาน ปา" (三八) ซึ่งแปลตรงตัวคือวันที่ 8 เดือน 3 ของทุกปี

มาดามชู ชิ่งหลิง ภริยาเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กล่าวในงานว่า การต่อสู้เพื่อสิทธิและความเท่าเทียมของสตรีบนโลกเริ่มขึ้นเมื่อประมาณหนึ่งร้อยปีก่อน และกลายเป็นที่มาของวันสตรีสากล จุดประสงค์ของวันสตรีสากลคือเพื่อให้เราระลึกถึงการเคลื่อนไหวและการเสียสละของสตรีและสืบทอดเจตนารมณ์ต่อไป ปัจจุบันสตรีจีนมีบทบาทในฐานะผู้นำมากขึ้น มีความมั่นใจในตนเอง แข็งแกร่ง และมีความสามารถ ได้เข้าร่วมในอุตสาหกรรมต่างๆและเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม สตรีจีนและสตรีไทยต่างก็มีส่วนที่เหมือนกันคือ ทำหน้าที่เป็นลูกที่ดี เป็นภรรยาที่ดี เป็นแม่ที่ดี และเป็นผู้รับผิดชอบหน้าที่การงานที่ดี โดยใช้ทั้งความเข้มแข็งและความอ่อนโยนเข้าจัดการปัญหา ในช่วงระยะหลังมานี้ สตรีไทยและสตรีจีนก็ไปมาหาสู่มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน และเมื่อทางจีนต้องการจัดงานด้านใดก็จะได้รับความช่วยเหลืออย่างดีจากสตรีชาวไทยมาตลอด ในฐานะตัวแทนของสถานทูตและชาวจีนจึงขอแสดงความขอบคุณต่อสตรีไทยด้วยใจจริง

กิจกรรมในวันนั้น นอกจากการจัดแสดงนิทรรศการชุดกี่เพ้าและผ้าย้อมแบบจีนแล้ว ยังมีการแสดงบนเวที อาทิ การเชิดสิงโต, การแสดงระบำจีน, การบรรเลงกู่เจิงและเอ้อหู, การร้องเพลงจีนและปิดท้ายด้วยรำบายศรีจากนักเรียนชาวไทย

ส่วนตัวอย่างกิจกรรมที่เกิดขึ้นในวันสตรีสากลที่ประเทศจีน เพื่อนสาวชาวจีนได้เล่าให้ฟังว่า ที่ทำงานจะมีการมอบดอกไม้ให้แก่พนักงานผู้หญิง ซึ่งบ้างก็เป็นดอกไม้สด บ้างก็เป็นดอกไม้พลาสติกตามแต่จะสะดวกและหาได้ นอกจากนี้ยังให้มีการหยุดพักครึ่งวัน โดยจะเข้ามาทำงานช่วงเช้าและเลิกงานไวกว่าปกติได้ในช่วงบ่ายของวัน ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าเธอจะใช้เวลาที่ได้หยุดพิเศษอย่างคุ้มค่า โดยการเปลี่ยนบทบาทจากพนักงานที่ดีไปเป็นทำหน้าที่เป็นลูกที่กตัญญูของพ่อแม่หรือคุณแม่ที่แสนใจดีของลูกๆอย่างแน่นอน

เรียบเรียงและรายงาน: อรอนงค์ อรุณเอก 林敏儿