เมื่อเช้าวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนได้เข้าร่วมการประชุมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของ 6 ประเทศเกียวกับปัญหานิวเคลียร์อิหร่านกับอิหร่าน ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองโลซานน์ (Lausanne)ของสวิตเซอร์แลนด์ บ่ายวันเดียวกัน นายหวัง อี้ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวร่วมของสื่อมวลชนจีน ระบุว่า ขณะนี้ การเจรจาปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว หวังว่าฝ่ายต่างๆ จะร่วมกันดำเนินการอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ต่อไป เพื่อไม่ให้การเจรจาประสบความล้มเหลว
การเจรจาปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านได้ฟื้นการประชุมที่เมืองโลซานน์ ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา พร้อมกับการเข้าร่วมของบรรดารัฐมนตรีต่างประเทศ 6 ประเทศเกี่ยวกับปัญหานิวเคลียร์อิหร่าน ทำให้การเจรจาเข้าสู่ขั้นตอนที่มีความสำคัญยิ่ง ซึ่งรตม.ต่างประเทศ จีนได้เปรียบเทียบว่า เหมือนกับช่วงสุดท้ายของการวิ่งมาราธอน รมต.จีนระบุว่า "การเจรจาแบบการวิ่งมาราธอนนี้ถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว การที่บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศ 7 ประเทศชุมนุมกันที่เมืองโลซานห์ของสวิตเซอร์แลนด์ ก็เพื่อร่วมกันสรุปผลคืบหน้าสำคัญของการเจรจาดังกล่าว เคลียร์ปัญหาสำคัญที่ยังค้างคงอยู่ ร่วมกันหารือแนวความคิดและวิถีทางในการแก้ไขปัญหา"
ช่วงสองวันมานี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจาก 6 ประเทศเกี่ยวกับปัญหานิวเคลยร์ของอิหร่านได้จัดการหารือแบบทวิภาคีและพหุภาคีหลายรอบ ส่วน 6 ประเทศก็ได้จัดการเจรจาระดับรัฐมนตรีต่างประเทศกับอิหร่าน เพื่อดำเนินการอภิปรายและหารืออย่างลงลึกเกี่ยวกับปัญหานิวเคลียร์ของอิหร่านจากระดับที่ต่างกัน ในระหว่างนั้น เนื่องจากมีข้อขัดแย้งกันมากมาย จึงทำให้การเจรจาตกอยู่ในภาวะลำบาก ทั้งนี้ สหรัฐฯ กับอิหร่านยืนกรานไม่ยอมถอย รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษเดินทางมาล่าช้า ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียเดินทางกลับประเทศก่อนกำหนดการ โดยอ้างว่า มีธุระต้องจัดการ สิ่งเหล่านี้ทำให้การเจรจามีความไม่แน่นอนมากขึ้น
แหล่งข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ การเจรจามีข้อขัดแย้งสำคัญในปัญหาทั้ง 3 ด้านดังต่อไปนี้คือ 1.ปัญหากำหนดระยะเวลาปฏิบัติตามความตกลงเกี่ยวกับปัญหาอิหร่านอย่างทั่วด้าน 2. การจะก่อตั้งกลไกที่มีประสิทธิภาพมาดูแลการปฏิบัติตามความตกลงเกี่ยวกับปัญหาอิหร่านและ 3 เมื่ออิหร่านฝ่าฝืนความตกลงดังกล่าว ประชาคมโลกจะรื้อฟื้นการคว่ำบาตรอย่างไร สรุปได้ว่า ทั้งนี้ ต้องการทุกฝ่ายร่วมใช้ความพยายาม เพื่อให้การเจรจาได้รับผลอย่างแท้จริง
