ประธนาธิบดีสี จิ้นผิง เดินทางกลับถึงปักกิ่ง หลังเสร็จสิ้นภารกิจเยือนปากีสถานและอินโดนีเซีย
  2015-04-25 16:06:32  cri

สำนักข่าวซินหวารายงานว่า เมื่อค่ำวันที่ 24 เมษายนนี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเดินทางกลับถึงกรุงปักกิ่ง หลังเสร็จสิ้นภารกิจเยือนปากีสถานอย่างเป็นทางการ และร่วมการประชุมผู้นำเอเชีย-แอฟริกา รวมทั้งงานรำลึกครบรอบ 60 ปีการประชุมบันดุงที่ประเทศอินโดนีเซียระหว่างวันที่ 20-24 เมษายนนี้

วันเดียวกัน นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงต่อสื่อมวลชนว่า การเยือนปากีสถาน และอินโดนีเซียของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก

นายหวาง อี้กล่าวว่า การที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เลือกเยือนปากีสถานเป็นประเทศแรกในปีนี้นั้นแสดงให้เห็นว่า จีนให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์-ปากีสถานอย่างมาก จากการเยือนครั้งนี้ ผู้นำทั้งสองประเทศมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า จะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้เป็นความสัมพันธ์ฉัน หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในทุกสถานการณ์ ซึ่งหมายความว่า จีนและปากีสถานจะจับมือกันเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าจะเผชิญกับการท้าทายอะไรก็ตาม ทั้งนี้สองฝ่ายยังเห็นพ้องจะเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือทาง ยุทธศาสตร์ จะสนับสนุนกันในประเด็นปัญหาที่เกี่ยวพันกับผลประโยชน์ที่สำคัญที่สุด หรือให้ความสำคัญเป็นพิเศษของอีกฝ่ายหนึ่ง จะประสานและร่วมมือกันในปัญหาระหว่างประเทศทั้งระดับภูมิภาค และระดับโลกที่ต่างก็สนใจ เช่น ปัญหาอัฟกานิสถาน โดยจะร่วมกันแสดงบทบาททางบวกในกระบวนการปรองดงใน อัฟกานิสถาน ทั้งสองฝ่ายยังเห็นด้วยที่จะเร่งพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถาน โดยเน้นในโครงการสำคัญ เช่น โครงการพัฒนาท่าเรือกวาดาร์ โครงการพลังงาน โครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและอุตสาหกรรม ทั้งสองฝ่ายเน้นว่า จะกระชับความร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้าย การป้องกันประเทศ และกิจการความมั่นคงทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลกให้แน่นแฟ้นยิ่ง ขึ้น เพื่อรักษาความปลอดภัยและปกป้องผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศ

นายหวัง อี้ยังกล่าวอีกว่า ระหว่างร่วมประชุมผู้นำเอเชีย-แอฟริกา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้กล่าวปาฐกถา ในที่ประชุม โดยได้บรรยายสรุปแนวคิดและมาตรการของจีนเกี่ยวกับการเชิดชู ส่งเสริมเจตนารมณ์บันดุง และขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างประเทศเอเชีย-แอฟริกา

ในช่วงต้นของปาฐกถา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้อธิบายถึงความหมายของเจตนารมณ์บันดุงในยุคปัจจุบัน โดยกล่าวว่า ต้องเชิดชูส่งเสริมเจตนารมณ์บันดุงต่อไป เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในรูปแบบใหม่ ซึ่งถือความร่วม มือลักษณะเอื้อประโยชน์แก่กันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกัน รวมทั้งส่งเสริมการสร้างระเบียบ ใหม่และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรูปแบบใหม่ที่มีความเที่ยงธรรม และสมเหตุสมผลมากขึ้น ผลักดันการพัฒนาความเป็นหนึ่งเดียวที่มีชะตาร่วมของสังคมมนุษย์ เพื่อสร้างความสุขให้แก่ประชาชนในภูมิภาคเอเชีย-แอฟริกา และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ลำดับถัดมา ผู้นำจีนได้ชูข้อเสนอผลักดันให้ความร่วมมือระหว่างประเทศในเอเชีย-แอฟริกาเป็น รูปธรรมมากขึ้น โดยจีนรับปากจะยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าของรายการสินค้า 97% จากประเทศด้อยพัฒนาที่สุด ซึ่งมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน จะให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศกำลังพัฒนาต่อไป โดยไม่มีเงื่อนไขการเมืองพ่วงท้าย และลำดับสุดท้าย นายสี จิ้นผิงได้อธิบายถึงแนวความคิดการดำเนินความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์แก่กัน โดยเสนอให้ลงลึกความร่วมมือระหว่างประเทศเอเชีย-แอฟริกา ขยายความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนา และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนากับประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งแนวคิดดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง ประเทศของจีน

นายหวัง อี้ ได้กล่าวในตอนท้ายว่า ภารกิจเยือนต่างประเทศของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบทางบวกต่อประเทศรอบข้าง ประเทศเอเชีย-แอฟริกา อีกทั้งประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ได้อธิบายแนวความคิดการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวที่มีชะตาร่วมของสังคมมนุษย์ ได้ประชาสัมพันธ์ยุทธศาสตร์ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ได้เสริมสร้างความสามัคคีและความร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนา จึงนับได้ว่าเป็นการดำเนินกิจกรรมการทูตสำคัญยิ่งครั้งหนึ่งของผู้นำจีน และย่อมต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ทางการทูตของจีนด้วย

(TOON/cai)

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040