พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า จีนกับไทยมีความมสัมพันธ์กันมาช้านาน ไทยเองก็ให้ความสำคัญในการร่วมมือกับจีนอย่างสูง ขอขอบคุณทางการจีนที่สนับสนุนไทยอย่างไม่มีเงื่อนไขมาโดยตลอด ไทยยินดีสนับสนุนและชื่นชมโครงการเส้นทางสายไหมทางบกและเส้นทางสายไหมทางทะเลศตวรรษที่ 21หรือ " 1 แถบ 1 เส้นทาง" ของจีน ยินดีที่จะให้ระบบคมนาคมขนส่งของไทยเชื่อมต่อ " 1 แถบ 1 เส้นทาง" เชื่อมั่นว่า โครงการก่อสร้างทางรถไฟในไทย จะกลายเป็นสัญลักษณ์ใหม่แห่งมิตรภาพระหว่างไทยกับจีน ไทยยินดีต้อนรับให้นักธุรกิจจีนเข้ามามีส่วนร่วมสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษของไทย หวังว่าสองฝ่ายจะกระชับความร่วมมือด้านการเกษตร การท่องเที่ยว อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ตลอดจนการซ้อมรบร่วมระหว่างสองประเทศ เพื่อผลักดันให้ความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างสองประเทศก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
ด้านพลอากาศเอกสวี่ ฉีเลี่ยงกล่าวว่า มิตรภาพจีน – ไทยมีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่โบราณกาล ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมีพื้นฐานลึกซึ้ง นับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต 40 ปีที่ผ่านมา ได้ประสบผลสำเร็จมากมายในด้านต่างๆ ภายใต้สถานการณ์ใหม่ สองประเทศควรร่วมมือร่วมใจกัน กระชับความร่วมมือในด้านต่างๆ เชื่อมั่นว่า การปฏิบัติตามโครงการ " 1 แถบ 1 เส้นทาง" จะส่งเสริมให้ประเทศรายทางสามารถกำหนดยุทธศาสตร์ที่สอดรับควบคู่กันไป เอื้อประโยชน์แก่กัน ตลอดจนส่งเสริมสันติภาพ ความมั่นคงและการพัฒนาร่วมกันของภูมิภาค จีนยินดีที่จะถือแนวคิดใหม่ 4 ประการคือ ความใกล้ชิด ความซื่อสัตย์ การเอื้อประโยชน์แก่กันและมีความเข้าใจมากขึ้น ใช้ความพยายามร่วมกับกับฝ่ายไทย เสริมความสัมพันธ์แบบทวิภาคีทางยุทธศาสตร์รอบด้านให้สมบูรณ์แบบบยิ่งขึ้น ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างทหารสองประเทศในด้านการซ้อมรบร่วม การแพทย์ทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ เทคโนโลยี ความมั่นคงพหุภาคี ตลอดจนการปราบปรามลัทธิก่อการร้าย เป็นต้น
วันเดียวกัน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไทยก็ได้พบกับพลอากาศเอกสวี่ ฉีเลี่ยงด้วยเช่นกัน สองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการทหารระหว่างสองประเทศ สถานการณ์ความมั่นคงภูมิภาคและปัญหาที่ต่างสนใจร่วมกัน
(Doon/Lin)
