เช้าวันที่ 29 เมษายนนี้ ทางการอินโดนิเซียประหารชีวิตผู้ต้องหาค้ายาเสพติด 7 คน ณ แดนประหารในเรือนจำบนเกาะนูซากัมบังกันของหมู่เกาะชวา ผู้ต้องหาดังกล่าวนี้เป็นชาวออสเตรเลีย บราซิล กานาและไนจีเรีย ยังมีผู้ต้องหาหญิงชาวฟิลิปปินส์ชื่อแมรี เจน เวโลโซถูกเลื่อนประหารชีวิตในนาทีสุดท้าย ก่อนหน้านี้ ทางการอินโดนิเซียตัดสินใจจะประหารชีวิตเธอพร้อมกับนักโทษต่างชาติรวม 8 คน

แม้จะถูกกดดันจากประเทศที่เกี่ยวข้องอย่างหนัก แต่ทางการอินโดนิเซียยังคงยืนคำตัดสินประหารชีวิตผู้ค้ายาเสพติดต่างประเทศ ทั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงท่าทีเอาจริงกับการปราบปรามยาเสพติดและความกังวลของรัฐบาลอินโดนิเซียต่อการแพร่กระจายของยาเสพติด ทางการอินโดนิเซียระบุว่า ขณะนี้ สถานการณ์การแพร่กระจายของยาเสพติดภายในปรเทศตกอยู่ในขั้นวิกฤต จำนวนผู้ติดยาเสพติดสูงถึง 4 ล้าน 2 แสนคน คิดเป็น 2% ของประชากรทั้งประเทศ เฉลี่ยแล้วทุกวันมีคนเสียชีวิตด้วยยาเสพติด 50 ราย

นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซียกล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ยาเสพติดมีผลกระทบอย่างหนักยิ่งจนถึงระดับการลำลายล้างวัยรุ่นอินโดนิเซีย การลงโทษเป็นวิธีที่ดีที่สุดป้องกันไม่ให้กลุ่มวัยรุ่นติดยาเสพติด โดยเขาสนับสนุนหน่วยงานตุลาการลงโทษผู้ต้องหายาเสพติดรายใหญ่ด้วยการประหารชีวิต ข้อกำหนดล่าสุดของอินโดนิเซียระบุว่า หากข้าราชการติดยาเสพติดหรือค้ายาเสพติด เมื่อถูกจับจะถูกไล่ออกทันที ฉะนั้น ทั้งสภาพความเป็นจริงและท่าทีของรัฐบาลอินโดนิเซีย อินโดนิเซียจะปราบปรามการค้ายาเสพติดให้สิ้นซาก

กรณีการประหารชีวิตผู้ต้องหาค้ายาเสพติดครั้งนี้ ในประเทศอินโดนิเซีย ไม่ว่าเจ้าหน้าที่รัฐบาล นักวิชาการหรือประชาชนต่างมีท่าทีสนับสนุน นายมูฮัมหมัด ปราเซตโย อัยการสูงสุดอินโดนิเซียกล่าวว่า การประหารชีวิตนักโทษไม่ใช่เรื่องที่ทำให้คนดีใจแม้แต่น้อย แต่รัฐบาลจำเป็นต้องทำเช่นนี้ เพื่อช่วยเหลือประเทศชาติให้พ้นจากการถูกทำลายด้วยยาเสพติด อินโดนิเซียก็ไม่เคยคิดจะเป็นปฏิปักษ์กับประเทศที่เกี่ยวข้อง แต่เป็นเพราะต้องการปราบปรามอาชญากรรมยาเสพติดให้สิ้นซาก

( In/Zi)