วันที่ 29 มิถุนายนนี้ ผู้แทนประเทศต่างๆที่เกี่ยวข้องจัดพิธีการลงนามในข้อตกลงธนาคารเพื่อการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเอเชียหรือ AIIB อย่างเป็นทางการที่กรุงปักกิ่ง ตามข้อตกลงดังกล่าว จีน อินเดีย และรัสเซียเป็นประเทศผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 อันดับแรกของธนาคาร AIIB ในประเทศสมาชิก 57 ประเทศ ประเทศกำลังพัฒนามีสัดส่วนการถือหุ้นมากกว่า ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า ข้อตกลงดังกล่าวได้สะท้อนให้เห็นถึงสิทธิ์ออกเสียงของประเทศกำลังพัฒนาอย่างเต็มที่
นายโจว เฉียงอู่ รองผู้อำนวยการศูนย์เอเชีย-แปซิฟิกกระทรวงการคลังจีนกล่าวว่า ในฐานะเป็นพื้นฐานด้านกฎหมายของการพัฒนาธนาคาร AIIB ข้อตกลงดังกล่าวได้สะท้อนให้เห็นถึงสิทธิ์ออกเสียงของประเทศกำลังพัฒนาอย่างเต็มที่ เพราะมองเห็นได้ว่า ประเทศที่มีสิทธิ์ออกเสียงมาก 3 อันดับแรกเป็นประเทศกำลังพัฒนาทั้งสิ้น และสิทธิ์ออกเสียงของประเทศกำลังพัฒนาทั้งหมดสูงถึง 70% ขึ้นไป
ปัจจุบัน จีนเป็นประเทศผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับแรกและมีสิทธิ์ออกเสียงสูงสุดในธนาคาร AIIB รองลงไปคืออินเดียและรัสเซีย นายโหลว จี้เหว่ย รัฐมนตรีกระทรวงการคลังจีนเห็นว่า การที่ประเทศกำลังพัฒนาถือหุ้นมากที่สุดนั้น สะท้อนให้เห็นว่า ปัจจุบัน ประเทศกำลังพัฒนาได้สร้างคุณูปการต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกมากกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว
เขากล่าวว่า ทั้งนี้ก็แสดงให้เห็นว่า ธนาคาร AIIB เป็นธนาคารแบบพหุภาคีที่เปิดกว้าง โดยแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความตั้งใจของประเทศกำลังพัฒนาที่จะร่วมมือกันแสวงหาการพัฒนาในภูมิภาคเอเชีย
สำหรับประเทศจีน ข้อตกลงธนาคาร AIIB ก็มีข้อความข้อหนึ่ง ซึ่งจะส่งอิทธิพลยาวไกล นั่นก็คือ จัดตั้งสำนักงานใหญ่ที่กรุงปักกิ่ง นายสื่อ ย่าวปิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังจีนกล่าวว่า จีนเป็นประเทศเจ้าภาพ สำนักงานใหญ่ของธนาคาร AIIB จัดตั้งขึ้นที่กรุงปักกิ่ง จีนต้องปฏิบัติงานอย่างดี เช่น เร่งการลงนามในข้อตกลงประเทศเจ้าภาพ เตรียมงานก่อสร้างสำนักงานใหญ่ และสถานที่ทำงานเฉพาะกาลต่างๆ