"TFboys" นิยมขึ้นตั้งแต่การเข้าร่วมรายการ "快乐大本营" รายการบันเทิงสุดฮิตของช่องทีวีหูหนาน ต่อมาก็นิยมขึ้นทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งในปัจจุบัน ดาราเด็กคนอื่นสู้ไม่ได้ พวกเขาเป็นที่นิยมแค่ไหนกันแน่ มีเจ้าของร้านขายเสื้อผ้าที่มีโลโก้หรือภาพถ่ายของ "TFboys" ทางอินเตอร์เน็ต บอกว่า เสื้อผ้าเกี่ยวกับ "TFboys" 6,000ตัวจะขายหมดภายในเวลา 30 วินาที ข้อความเวยโป๋ที่เกี่ยวกับการสอบเข้าโรงเรียนมัธยมตอนปลายถูกส่งต่อ 6 แสนครั้ง และเคยได้รับการยกย่องให้เป็น "กลุ่มนักร้องที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในจีนแผ่นดินใหญ่" พร้อมกับหนุ่มน้อย 3 คนฮิตขึ้นเรื่อยๆ และเข้าร่วมรายการโทรทัศน์มากขึ้น ทำให้มีคนตั้งคำถามว่า ทำไมเด็กชาย 3 คนถึงได้รับความนิยมมากขนาดนี้ และความนิยมขนาดนี้จะรักษาไว้ไปได้นานเท่าไร

เมื่อเทียบกับกลุ่มดาราอื่นๆ ที่ทำนองเป็นสไตล์เกาหลีแล้ว "TFboys" ทำให้แฟนๆ รู้สึกใกล้ชิดกว่า เหมือนน้องชายข้างบ้าน แม้ว่าอายุยังน้อย แต่ก็ปฏิบัติตัวได้เหมือนผู้ใหญ่ ลักษณะพิเศษของ "TFboys" ก็คืออายุน้อยและแปลกใหม่ พวกเขาไม่ร้องเพลงเด็กธรรมดาอีกแล้ว แต่ร้องความรู้สึกของตนเอง เพลงเหล่านี้มีกระบวนการแต่งเพลงเหมือนกันกับเพลงของดาราผู้ใหญ่ แต่เนื้อเพลงจะให้พลังทางบวกและมีความร่าเริง

จากความนิยมของ "TFboys" ก็ทำให้มีหลายคนนึกถึงดาราเด็กของจีนที่มีชื่อเสียงหลายคน ก็มีคนถามว่า การให้เด็กๆ ออกมาเป็นดาราจะเป็นประโยชน์ต่อเด็กๆ จริงหรือไม่ นอกจากดาราเด็กที่แสดงภาพยนตร์หรือละครแล้ว รายการโทรทัศน์ เช่น "พ่อจ๋า เราจะไปไหน" (爸爸去哪儿) "พ่อกลับมาแล้ว" (爸爸回来了) ก็ทำให้ลูกของดาราเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมขึ้นอย่างรวดเร็ว เด็กๆ ที่อยู่บนจอทีวี มีความเป็นธรรมชาติ ซึ่งแม้ว่าปฏิบัติตนไม่ค่อยดี หรือแสดงไม่ดี ผู้ชมก็จะไม่ว่า กลับยังรู้สึกน่ารักมาก แต่อนาคตการพัฒนาของเด็กๆ ที่อยากเป็นดารา ยังต้องพบปัญหามากมาย

หนึ่งก็คือ การอัดรายการและการแสดงภาพยนตร์เหนื่อยและลำบาก ปัจจุบัน ทุกคนรู้ว่า นอกจากความสวยความหล่อบนทีวีแล้ว จริงๆ แล้ว ดารามีงานหนักมาก การแสดงภาพยนตร์และละครไม่ใช่เรื่องง่าย บางทีจะกินข้าวไม่ตรงเวลา นอนดึกและตื่นเช้า สภาพการพักผ่อนและความเป็นอยู่ไม่ดี หรืออาจมีความอันตราย

สอง เป็นห่วงผลการเรียน เด็กๆ ที่เป็นดารา โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในวัยเรียน ต้องเผชิญกับปัญหาในการเรียนหนังสือ ถ้าถ่ายภาพยนตร์หรือละครก็จะไม่ค่อยเข้าเรียน พ่อแม่ในปัจจุบันไม่กล้าปล่อยให้ลูกเล่นอย่างเดียวและละทิ้งการเรียนหนังสือ อีกทั้ง การเป็นดารานั้นไม่ใช่งานที่มั่นคง จะนิยมเป็นเวลากี่ปีก็ไม่แน่นอน เพราะฉะนั้น เด็กๆ ที่เป็นดาราต้องเรียนเอง บางคนยังต้องจ้างครูมาสอนที่กองถ่ายภาพยนตร์