ขณะที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือได้กลายเป็นเครื่องมือซึ่งขาดไม่ได้ในการติดต่อสัมพันธ์ในชีวิตประจำวันของผู้คน แต่สิ่งที่น่าสังเกตคือ มือถือในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นสมาร์ทโฟนแล้ว ขณะที่สมาร์ทโฟนนำความสะดวกสบายแก่ผู้คน ก็ยิ่งมีคนที่ติดมือถือเกินควรจำนวนมากขึ้น สภาพเช่นนี้ได้ตั้งชื่อว่า "โรคติดมือถือ" ซึ่งมีอาการสำคัญๆดังต่อไปนี้

1.หากออกนอกบ้านโดยลืมเอามือถือติดตัว ก็กังวลอย่างมาก จะต้องกลับบ้านเพื่อเอามือถือติดตัวไปด้วย

2.ขณะที่รอรถเมล์ รถไฟใต้ดิน หรือลิฟต์ ต้องนำมือถือออกมาเพื่อดูไมโครบล็อก วีแชท เล่นเกม อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ดูวีดีโอ หรือฟังเพลง เป็นต้น

3.ถ้าขับรถเอง ขึ้นรถก็วางมือถือไว้ข้างหน้า พอไฟแดง ก็รีบดูวีแชท ไมโครบล็อก หรือข้อความสั้น บางทีเปลี่ยนเป็นไฟเขียวแล้ว ยังไม่ได้สังเกต จนทำให้รถข้างหลังต้องบีบแตรเร่ง

4.ก่อนทานอาหาร ไม่ว่าทานที่บ้านหรือทานกับเพื่อนในร้าน ต้องใช้มือถือถ่ายรูปอาหารบนโต๊ะก่อน แล้วยังต้องส่งรูปถึงวีแชท หรือไมโครบล็อกเพื่อให้เพื่อนๆชื่นชมกัน

5.ขณะอยู่กับเพื่อน คุยไม่กี่นาทีก็ต้องนำมือถือออกมาดูหน่อย แม้มีเพื่อนคุยกันต่อหน้าอยู่ แต่ก็ยังต้องคุยวีแชท ดูไมโครบล็อกไปด้วย

6.ขณะนั่งในห้องน้ำ ยังต้องเล่นมือถือไป คุยวีแชท ดูไมโครบล็อก หากไม่มีที่วางมือถือ ก็จะบ่น

7. ก่อนนอน ต้องเล่นมือถือถึงครึ่งชั่วโมงก่อน มิฉะนั้นก็จะนอนไม่หลับ พอลืมตา เรื่องแรกก็คือนำมือถือ ดูวีแชท และไมโครบล็อกว่ามีข่าวอะไรบ้าง

อยากรู้ว่าตัวเองเป็น "โรคติดมือถือ" หรือไม่ ก็สามารถเทียบได้กับ 7 ข้อข้างต้น ถ้าเป็นมากกว่า 3 ข้อ ก็น่าจะสันนิษฐานเบื้องต้นได้ว่า คุณเป็น "โรคติดมือถือ" ถ้ามีพฤติกรรมตรงทั้ง 7 ข้อ ก็ยืนยันได้ว่า คุณมีอาการขั้นโคม่า

เมื่อเร็วๆนี้ มีผลการสำรวจระบุว่า ในเมืองสำคัญของจีน 28 แห่ง มีประมาณ 80% ของผู้ทำงานในบริษัทถูกมือถือ "ควบคุม" ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น "โรคติดมือถือ" ในจำนวนนี้ พนักงานที่กรุงปักกิ่งใช้มือถือเป็นเวลานานที่สุด ได้แก่ 6.72 ชั่วโมงต่อวัน ถัดไปคือพนักงานในเมืองซีอัน 6.15 ชั่วโมงต่อวัน อันดับที่ 3 คือพนักงานที่นครเซี่ยงไฮ้ 5.45 ชั่วโมงต่อวัน

ด้านอาการ ผลการสำรวจระบุว่า 79.4% ของพนักงานเปิดมือถือไว้ตลอด 24 ชั่วโมง มี 78.8% ชอบเล่นมือถือในเวลาว่าง มี 60.4% แสดงอย่างชัดเจนว่า มือถือทำให้คุยกับคนที่อยู่เบื้องหน้าน้อยลง มี 68.5% ยอมรับว่า เรื่องแรกหลังตื่นนอนก็คือ ดูมือถือ และมี 63.6% ระบุว่า ชอบเล่นมือถือก่อนนอนทุกวัน

ด้านอาชีพ นักประชาสัมพันธ์และเซลส์ติดมือถือมากที่สุด เนื่องจากลักษณะงานต้องเปิดมือถือไว้ตลอด 24 ชั่วโมง หากแบตเตอรีหมด ก็จะเป็นห่วงหรือเกิดความกังวล เพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับโทรศัพท์จากลูกค้าสำคัญ