เมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนกล่าวคำปราศรัยสำคัญในพิธีรำลึกครบรอบ 70 ปีแห่งชัยชนะสงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นและสงครามต่อต้านฟาสซิสต์ ได้รับความสนใจจากประชาคมโลกอย่างสูง นักวิชาการและผู้สื่อข่าวประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ชื่นชมคำปราศรัยของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงอย่างสูง

ดร.หู อี้ซาน อดีตเลขาธิการฝ่ายการเมืองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ร่วมพิธีรำลึกในวันเดียวกัน เขาเห็นว่า ก่อนอื่นประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เน้นว่าทุกวันนี้ซึ่งสุริยะฉายส่องสว่างโลกนั้น จีนยังจดจำไว้ซึ่งความช่วยเหลือจากประเทศต่างๆ ในสงคราม เขากล่าวว่า สงครามต่อต้านฟาสซิสต์เป็นสงครามของมนุษยชาติ จีนไม่เคยลืมว่าประเทศต่างๆ เคยเคียงบ่าเคียงไหล่สู้รบร่วมกัน ประชาชนทั่วโลกก็จะเข้าใจกระบวนการสันติภาพของจีนในทุกวันนี้

ประการที่สองคือประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ สรุปบทเรียนจากประวัติศาสตร์ ยืนหยัดรักษาสันติภาพ และร่วมกันสร้างประชาคมที่ร่วมชะตากรรมเดียวกันของมวลมนุษยชาติ เคารพระเบียบสากลตามเจตนารมณ์เคารพซึ่งกันและกัน ปฏิบัติต่อกันอย่างเสมอภาค และดำรงอยู่ด้วยกันและอย่างมีเกียรติร่วมกัน

ประการที่สาม จีนพิสูจน์ความจริงใจของตนด้วยปฏิบัติการที่เป็นจริง ประธานาธิบดีสี

จิ้นผิงกล่าวว่าจะลดกำลังทหาร 3 แสนนาย จีนในฐานะประเทศมหาอำนาจต้องมีกองทัพแข็งแกร่งเพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประเทศชาติและสิทธิประโยชน์ของภูมิภาคตลอดจนสิทธิประโยชน์ของโลก ประเทศต่างๆ ที่เคยถูกรุกรานล้วนเข้าใจประเด็นนี้ การที่จีนยังยินดีที่จะลดกำลังทหารภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ แสดงถึงความจริงใจของประเทศจีน

ผู้สื่อข่าวอาวุโสพม่าเห็นว่า การที่จีนจัดพิธีรำลึกครบรอบ 70 ปีแห่งชัยชนะสงครามต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่นและสงครามต่อต้านฟาสซิสต์มีความหมายสำคัญยิ่ง แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของจีนในการจดจำประวัติศาสตร์และพิทักษ์สันติภาพโลก

นายเฉียนเฟิง ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์รายวันย่าโจวของไทยกล่าวว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงย้ำว่า จีนจะไม่ขยายอิทธิพล ไม่วางตัวเป็นใหญ่ ไม่นำประสบการณ์แห่งความโศกสลดของตนไปให้ประเทศอื่น แท้ที่จริงอันนี้ก็ตรงกับแนวความคิดโบราณของจีนที่ว่า สิ่งที่ตนไม่ชอบก็อย่าโยนให้คนอื่นเลย ซึ่งคือความศรัทธาและจริยธรรมของประชาชนจีน แสดงถึงความตั้งใจของจีนที่จะเดินบนเส้นทางแห่งสันติภาพและการพัฒนา(In/cici)