เมื่อเร็วๆ นี้ การประชุมอภิปรายเกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และความร่วมมือด้านศักยภาพในการผลิตระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงจีน-อาเซียนจัดขึ้นที่กรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย ผู้ร่วมประชุมต่างเห็นว่า ความร่วมมือด้านศักยภาพในการผลิตระหว่างจีนกับอาเซียนมีศักยภาพสูง และต่างมีความได้เปรียบที่สามารถเอื้อประโยชน์แก่อีกฝ่ายหนึ่ง จึงต้องการรูปแบบความร่วมมือใหม่ เพื่อส่งเสริมให้ความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายพัฒนาลุ่มลึกยิ่งขึ้น
นายเจี่ย จื้อปัง รองประธานคณะมนตรีด้านเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีนกล่าวว่า ประชาคมอาเซียนจะสร้างแล้วเสร็จในสิ้นปีนี้ โดยจะกลายเป็นตลาดและฐานการผลิตที่เป็นหนึ่งเดียวด้านเศรษฐกิจในภูมิภาค และมีความสามารถด้านการแข่งขัน ทำให้การค้า การบริการ เงินทุน และบุคลากรไหลเวียนอย่างคล่องแคล่วภายในภูมิภาค ทั้งนี้จะนำมาซึ่งโอกาสสำคัญด้านการพัฒนาศักยภาพความร่วมมือระหว่างจีน-อาเซียน
ผู้ร่วมประชุมประเมินอย่างสูงเกี่ยวกับข้อริเริ่มด้านความร่วมมือในศักยภาพการผลิตจีน-อาเซียน โดยเห็นพ้องต้องกันว่า ความร่วมมือด้านศักยภาพในการผลิตระหว่างจีนกับอาเซียนมีพื้นฐานดี และมีศักยภาพสูง มีส่วนช่วยประเทศอาเซียน โดยเฉพาะประเทศในคาบสมุทรอินโดจีนพัฒนาความได้เปรียบระดับรอง (Second-moveradvantage) ให้เป็นแรงกระตุ้นด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจ ผลักดันการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจและการยกระดับอุตสาหกรรมของประเทศอาเซียน พร้อมยังสามารถส่งเสริมการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันและการเติบโตของเศรษฐกิจแห่งภูมิภาค
ผู้ร่วมประชุมได้อภิปรายเกี่ยวกับโอกาสและรูปแบบความร่วมมือด้านศักยภาพในการผลิตของจีนและอาเซียน เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองฝ่าย ผู้ร่วมประชุมต่างเสนอให้สร้างโซนเศรษฐกิจความร่วมมือด้านศักยภาพคการผลิตจากเมืองคุนหมิงถึงประเทศสิงคโปร์ในศตวรรษที่ 21 โดยจะสร้างความเชื่อมต่อกันด้วยรถไฟความเร็วสูงจากเมืองคุนหมิงของจีน ผ่านกรุงเวียงจันทน์ กรุงเทพฯ กรุงกัวลาลัมเปอร์ และถึงสิงคโปร์ ส่งเสริมให้ความร่วมมือด้านศักยภาพการผลิตสอดคล้องกับความต้องการของการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนและประเทศอาเซียน ยืนหยัดบทบาทชี้นำของธรุกิจ และดำเนินงานเชิงพาณิชย์ เพื่อดึงให้หน่วยงานทุนเอกชนมาเข้าร่วม สร้างรูปแบบใหม่ด้านความร่วมและการระดมเงินทุน ใช้เวทีระดมเงินทุน เช่น ธนาคารเอไอไอบี และกองทุนเส้นทางสายไหมให้เกิดประโยชน์ด้วยดี
ผู้แทนอินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย เวียดนาม ลาว และกัมพูชาประจำอาเซียน ประธานบริหารกองทุนอาเซียน ตลอดจนนักธุรกิจ นักวิชาการจีน และผู้สื่อข่าวประเทศต่างๆ ประมาณ 200 คนได้ร่วมประชุมครั้งนี้
Yim/Ldan
