ปัจจุบัน ชีวิตในเมืองใหญ่ของจีนมีแรงกดดันมากขึ้น การไปท่องเที่ยวจึงกลายเป็นวิธีผ่อนคลายที่ได้รับความนิยมอย่างมากของชาวจีน เมื่อปีที่แล้วยังมีครูของมณฑลหูหนาน ลาออกด้วยเหตุผลเพียงสั้นๆ ว่า "โลกกว้างใหญ่ขนาดนี้ ฉันอยากไปทัศนาบ้าง" (世界那么大，我想去看看) ทำให้เป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจจากทั่วประเทศ และทำให้ผู้คนนับถือความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวของครูหญิงคนนี้

นอกจากครูคนนี้ จีนยังมีผู้กล้าที่ยอมละทิ้งชีวิตที่มั่นคง และออกเดินทางไปท่องเที่ยวทั่วประเทศตลอดจนทั่วโลก ในทำนองนี้อยู่อีกจำนวนไม่น้อย เพื่อความสนุกและบรรลุความฝันของตนเอง รวมถึงพ่อแม่จีนทั่วไป เริ่มมีแนวคิดการสอนลูกที่แตกต่างไปจากเดิม ด้วยการพาลูกออกจากบ้าน ไปเปิดหูเปิดตาดูสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก

ยกตัวอย่าง มีชายจีนคนหนึ่งชื่อ "จู ชุนเซี่ย" เขาทำงานที่นครเซี่ยงไฮ้มากกว่า 10 ปีแล้ว และเป็นเจ้าของบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่ง ในสายตาของคนทั่วไป ชีวิตของเขามีความสุขมาก มีงานที่ดี มีเงินพอเพียง มีภรรยา ลูกสาว และบ้านที่น่าอยู่ขนาด 100 ตารางเมตร แต่เมื่อครึ่งปีก่อน จู ชุนเซี่ยมีการตัดสินใจที่ทำให้ทุกคนตื่นเต้น เขาขายบ้านมูลค่ากว่า 2 ล้านหยวนที่เซี่ยงไฮ้ และขายหุ้นของบริษัท หลังเตรียมตัวร่วม 3 เดือน ในเดือนสิงหาคมปี 2015 เขาก็เริ่มออกท่องเที่ยวไปทั่วโลกกับภรรยาและลูกสาวที่อายุเพียง 2 ขวบ เขาตัดสินใจว่า การท่องเที่ยวครั้งนี้จะดำเนินเป็นเวลา 5 ปี

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ปี 2015 จู ชุนเซี่ย ขับรถออกจากบ้านเริ่มการเดินทางกับครอบครัว โดยเขาตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้า และปลุกลูกสาวตอน 7 โมง หลังจากนั้นเริ่มทำอาหารเช้า ต่อมาเขาใช้เวลา 5 ชั่วโมงเดินทางเป็นระยะทางร่วม 300-350 กิโลเมตร ถึงอีกที่หนึ่งแล้วหยุดทำอาหารกลางวัน หลังกินข้าวเสร็จ ก็พาลูกสาว "เสี่ยวเอิน" เดินเล่นที่สวนสาธารณะหรือบ้านของชาวบ้านในท้องถิ่น ทำให้ลูกสัมผัสกับประเพณีของทุกพื้นที่ และเพิ่มความรู้

พวกเขาขับรถออกจากนครเซี่ยงไฮ้ เดินทางไปมณฑลจี๋หลิน ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน แล้วไปกรุงปักกิ่ง เมืองจี่หนาน เมืองอู่ฮั่น และเมื่อต้นเดือนตุลาคม ก็เดินทางออกจากเมืองเซินเจิ้นไปถึงเมืองเฉิงตู เมืองต้าหลี่ของหยุนหนาน แล้วเดินทางไปเมืองจูไห่และมาเก๊า ในปี 2016 เขาวางแผนจะไปท่องเที่ยวที่ต่างประเทศ จนถึงปี 2020 ซึ่งลูกสาวเสี่ยวเอินจะเข้าเรียนชั้นประถม