นายเย่ว์ จ้งหมิง ระบุว่า ตามกฎหมายฉบับดังกล่าว ผู้สำรวจพัฒนาควรทำการสำรวจและประเมินผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับบริเวณที่ต้องการสำรวจ จากนั้นควรร่างแผนติดตามเฝ้าระวัง ซึ่งก็ต้องติดตามเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจจะเกิดกับสิ่งแวดล้อมทางทะเลแบบเรียลไทม์ ควรบันทึกข้อมูลผลการติดตามเฝ้าระวังไว้อย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นหลักฐานในการตรวจสอบ พร้อมกันนี้ ยังควรดูแลรักษาระบบนิเวศทางทะเล ความหลากหลายทางชีวภาพ สายพันธุ์สิ่งมีชีวิตทางทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายพันธุ์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์
นายเย่ว์ จ้งหมิงยังระบุด้วยว่า กฎหมายฉบับนี้ยังพูดถึงว่า หน่วยงานกำกับดูแลทางทะเลแห่งคณะรัฐมนตรีที่มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบผู้รับเหมาในการรักษาสิ่งแวดล้อมทางทะเล ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยที่สามารถถือครองได้ ด้วยมาตรการต่างๆ ที่จำเป็น เพื่อป้องกัน ลด และควบคุมสารพิษตลอดจนวัตถุอื่นๆ ที่อาจจะปนเปื้อนในทะเลจากการสำรวจพัฒนาของตนเอง รวมถึงให้คุ้มครองระบบนิเวศ สายพันธุ์ที่อาจจะเสื่อมโทรม ถูกคุกคาม หรือมีความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ รวมถึงให้คุ้มครองสิ่งแวดล้อมสำหรับสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆ ในทะเลด้วย
นายซุน ซูเสียน รองผู้อำนวยการสำนักงานทะเลแห่งชาติจีนระบุในที่ประชุมแถลงข่าวว่า ทรัพยากรในทะเลลึกนั้นมีมาก อุดอไปด้วยแร่ธาตุแมงกานีส โคบอลท์ กรดกำมะถันในรูปของเหลวชนิดร้อน และน้ำแข็งที่ลุกไหม้ได้ กิจการสำรวจพัฒนาทะเลลึกของจีนเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปลายทศวรรษปี 1970 และก็ประสบผลสำเร็จมากมาย ทั้งในด้านการสำรวจทรัพยากรทางทะเล เทคโนโลยี ทักษะความสามารถ ความร่วมมือระหว่างประเทศ และการมีส่วนร่วมในกิจการระหว่างประเทศ แต่ก็ยังคงมีความเหลื่อมล้ำกับประเทศที่พัฒนาแล้วด้านทักษะการสำรวจทรัพยากรบริเวณทะเลน้ำลึก ซึ่งยังคงต้องใช้ความพยายามต่อไป
(TOON/LING)
