ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา รัฐบาลจีนช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งของประเทศตามลุ่มแม่น้ำโขง ด้วยการปล่อยน้ำจากสถานีกำเนิดไฟฟ้าพลังน้ำจิ่งหง มณฑลยูนนาน สู่แม่น้ำโขงอย่างเร่งด่วน เป็นการช่วยบรรเทาภัยแล้งในประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ได้แก่ ไทย ลาว พม่า กัมพูชา รวมถึงเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่มีข้อพิพาทกับจีนกรณีอธิปไตยเหนือทะเลจีนใต้ด้วย

แม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำสายเดียวกันสำหรับ 6 ประเทศ มาตรการดังกล่าวของรัฐบาลจีนสะท้อนให้เห็นถึงความจริงใจและการเกื้อกูลประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงความพยายามในการสร้างประชาคมร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประเทศรอบข้าง และยึดหลัก "ถือความเป็นธรรมเป็นผลประโยชน์" ทั้งนี้ ชาวเน็ตเวียดนามระบุว่า "มาตรการปล่อยน้ำดังกล่าวของจีนเต็มเปี่ยมด้วยความปรารถนาดี" และข้าราชการระดับสูงของรัฐบาลเวียดนามระบุว่า "เป็นปฏิบัติการที่ให้ความร่วมมืออย่างสูง"

การอยู่ร่วมกันอย่างปรองดองกับเพื่อนบ้าน การเป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน การสร้างความสนิทสนมด้วยความเมตตา และการให้ความร่วมมือ เป็นหลักการของจีนตั้งแต่โบราณกาลที่ใช้ปฏิบัติกับเพื่อนบ้าน ทั้งเป็นกระแสหลักของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในภูมิภาค แม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขงไหลผ่านไกลพันกิโลเมตรและในที่สุดก็ลงสู่ทะเลจีนใต้ ถึงแม้เกิดข้อพิพาททะเลจีนใต้ แต่ก็ไม่ได้บั่นทอนความปรารถนาของจีนกับบรรดาประเทศอาเซียนในการสร้างสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือกัน ถึงแม้ประเทศนอกภูมิภาคบางประเทศเข้ามาแซกแซง ยั่วยุ กระทั่งโอ้อวดและท้าทายด้วยแสนยานุภาพทางทะเลและทางอากาศอยู่เรื่อยๆ โดยถือข้ออ้าง "เสรีภาพในการเดินเรือ" ก็ตาม

"เสรีภาพในการเดินเรือไม่ใช่เสรีภาพในการใช้อำนาจบาตรใหญ่ หากผู้ใดหมายจะกวนให้น้ำในทะเลจีนใต้ขุ่น และทำให้เอเชียวุ่นวาย จีนก็ไม่ยอมเด็ดขาด ประเทศส่วนใหญ่ในภูมิภาคก็จะไม่ยอมแน่นอน" นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุชัดถ้อยชัดคำขณะตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีทะเลจีนใต้ ระหว่างการประชุม "สองสภา" ของจีนที่เพิ่งสิ้นสุดลง

ผู้ก่อกรรมทำเข็ญ มักจะมีเจตนาร้ายจนยากจะหยั่งรู้ได้ มักจะวัดผู้อื่นด้วยตนเอง การที่สหรัฐอเมริกาสร้างกระแสข่าวและท้าทายจีนกรณีทะเลจีนใต้ ก็เพื่อป้องปรามไม่ให้จีนท้าอำนาจการเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในเอเชีย-แปซิฟิกและโลก

(IN/LING)