เมืองลั่วหยาง เมืองสำคัญของมณฑลเหอหนาน ภาคกลางของจีน สมัยโบราณเคยมีหลายชื่อ เช่น จิงลั่ว ลั่วโจว เหอหนานฝู่ เนื่องจากตั้งอยู่ทางด้านเหนือของแม่น้ำลั่ว ซึ่งคนจีนถือว่า ตามทฤษฏีหยินหยาง ทางเหนือเป็นหยาง ทางใต้เป็นหยิน จึงตั้งชื่อว่าลั่วหยาง เป็นเมืองเก่าที่มีชื่อเสียงของจีน
เมืองลั่วหยางมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 5,000 ปีแล้ว ความเก่าแก่ในการเป็นเมืองหลวงก็นานกว่า 1,500 ปี มีจักรพรรดิ 105 พระองค์ขึ้นครองราชที่ลั่วหยาง จึงถือเป็นแหล่งกำเนิดของอารยธรรมจีนและประชาชาติจีน ดอกโบตั๋นมีชื่อเสียงมากในจีนและโลก ลั่วหยางจึงได้ชื่อว่า เมืองแห่งโบตั๋น
เมืองลั่วหยางเคยเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของจีน และเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของจีนโบราณด้วย เมื่อหลายพันปีก่อน ก็ได้สร้างเครือข่ายทางหลวงแห่งแรกของจีน โดยเมื่อ 1,400 กว่าปีก่อนในสมัยราชวงศ์สุย เริ่มมีการขุดคลองใหญ่เพื่อเดินทางไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันออกเฉียงใต้ ความยาวกว่า 2,000 กิโลเมตร และเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมทางบก
ตั้งแต่สมัยราชวงศ์สุย ก็มีการปลูกดอกโบตั๋นในเมืองลั่วหยาง ดอกโบตั๋นมีดอกใหญ่ สีสันสดใส เป็นสัญลักษณ์ของความศิริมงคล มั่งคั่งร่ำรวยและความเจริญรุ่งเรือง โบตั๋นลั่วหยางมีหลายสี เช่น แดง ขาว ชมพู เหลือง ม่วง ฟ้า เขียวและดำ กว่า 1,000 สายพันธุ์ แต่ละปี ในช่วงเทศกาลชิงหมิง ประมาณต้นเดือนเมษายนถึงปลายเดือนพฤษภาคม เป็ยช่วงที่ดอกโบตั๋นบานสะพรั่งมากที่สุด ทั้งชาวจีนและนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหมื่นเป็นแสนจะพากันไปชมดอกโบตั๋น แม้ว่าดอกโบตั๋นปลูกไม่ยาก ในพื้นที่ภาคเหนือหลายแห่งมีการเพาะพันธุ์และปลูก แต่ต้องยอมรับว่า โบตั๋นในเมืองลั่วหยางสวยที่สุด ใหญ่ที่สุด หอมที่สุด มีจำนวนมากที่สุด สถิติแสดงว่า ทั่วลั่วหยางมีดอกโบตั๋นกว่า 1,200 สายพันธุ์ จำนวนมากกว่า 40 ล้านต้น
ปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายนถึงวันที่ 5 พฤษภาคม เมืองลั่วหยางจะจัดเทศกาลวัฒนธรรมโบตั๋น ซึ่งงานนี้ได้จัดอย่างต่อเนื่องกันมา 34 ครั้งแล้ว แต่ละปี จะรองรับนักท่องเที่ยวทั้งจีนและต่างประเทศหลายสิบล้านคน สร้างรายได้ให้กับเมืองคิดเป็นประมาณ 1 ใน 4 ของรายได้ด้านการท่องเที่ยวทั้งปี นอกจากชมดอกโบตั๋นแล้ว ยังมีดอกท้อ ดอกไห่ถาง ดอกทิวลิป ดอกกุหลาบ และอื่นๆ อีกหลายชนิดให้ชม ทำให้ลั่วหยางเสมือนโลกแห่งดอกไม้ ปีนี้ ในเทศกาลโบตั๋นยังจะจัดกิจกรรมหลายอย่างและจัดการแสดงหลายครั้ง มีเนื้อหาเกี่ยวกับนิทานของดอกโบตั๋น เส้นทางสายไหม ความเจริญรุ่งเรืองของราชวงศ์ถัง วิถีชีวิตของประเทศต่างๆ ตามเส้นทางสายไหม เป็นต้น
ดอกโบตั๋นจะบานตามฤดูกาล ต้นเดือนเมษายน ตามถนนหนทางในเมืองลั่วหยางก็จะเห็นดอกโบตั๋นทยอยบานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนท้องถิ่นบอกว่า ต้นเดือนโบตั๋นพันธุ์ดีๆ จะยังไม่บาน พันธุ์ธรรมดาจะเริ่มบานก่อน และมีสีไม่มาก เพียงสีขาว สีแดงหรือสีชมพูเข้ม ถึงประมาณวันที่ 10 เมษายน จะเห็นดอกโบตั๋นหลายสีหลากพันธุ์บานสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมทั้งเมือง ทำให้ไม่ว่าคนท้องถิ่นหรือนักท่องเที่ยวรู้สึกสดชื่น ทุกคนเห็นดอกโบตั๋นดอกโตๆ ก็อดยิ้มไม่ได้ พาเด็กถ่ายรูปกับดอกโบตั๋น พาผู้สูงอายุไปชมโบตั๋นดอกใหญ่ ในเมืองลั่วหยางจะเห็นผู้คนมีแต่รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าให้เห็นได้ทั่ว
ช่วงนี้ ช่างถ่ายรูปและนักวาดภาพก็นิยมไปลั่วหยาง คนลั่วหยางมากมายวาดภาพดอกโบตั๋นเก่งมาก ศิลปินพื้นบ้านชอบวาดภาพ ตัดกระดาษ แกะสลักและทำรูปปั้นดอกโบตั๋น นักท่องเที่ยวเกือบทุกคนจะเลือกของสักอย่างสองอย่างเป็นที่ระลึก
