จริงๆแล้ว ในช่วงปีหลังๆนี้ เนื่องจากการวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ไม่ว่าด้านทฤษฎีหรือเทคโนโลยีก็ตาม และค่อยๆขยายบทบาทสำคัญมากยิ่งขึ้นต่อการยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมที่มีมาช้านานให้สูงขึ้นและส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมใหม่ๆด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการขับยอดยานโดยไร้คนขับ หุ่นยนต์อัฉริยะ และโลจิสติกส์ เป็นต้น รัฐบาลประเทศต่างๆในโลกก็พากันให้การสนับสนุนและวางแผนเพื่อการพัฒนา

เช่น ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ก็จัดงานสัมมนาโดยให้เจ้าหน้าที่รัฐบาล ผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องและนักธุรกิจเสนอข้อเสนอเพื่อความก้าวหน้าของเทคโนโลยีครั้งที่ 4 โดยมีปัญญาประดิษฐ์เป็นหลัก เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังเผยว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า รัฐบาลจะลงทุนเป็น 1 ล้านล้านเหรียญวอน เพื่ออบรมบุคลากรที่เกี่ยวข้อง และสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานเพื่อสำรองข้อมูล และพัฒนาปัจจัยแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ที่สำคัญจะพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ด้านภาษา ปัญญาประดิษฐ์ด้านการมองเห็น ปัญญาประดิษฐ์พื้นที่บริเวณ อารมณ์ความรู้สึก และสรุปการประดิษฐ์คิดค้นเป็นต้น นอกจากนั้น ยังจะให้การสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ชิปเลียนแบบสมองและเส้นประสาทมนุษย์ วิทยาศาสตร์ด้านสมอง และคณิตศาสตร์วิศวกรรม ซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีขั้นพื้นฐานที่สุด นอกจากนั้น ยังจะพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ส่งเสริมให้รัฐบาล วิสาหกิจและสถาบันการวิจัยสามารถใช้ข้อมูลพร้อมกัน

ในสหรัฐฯ รัฐบาลได้ใช้วิธีการลงทุนสาธารณะมาส่งเสริมการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ ปี 2013 รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณเป็นเงิน 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อพัฒนาการผลิตที่ทันสมัย ที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ พัฒนาหุ่นยนต์ ปี 2013 รัฐบาลโอบามายังลงทุนเป็นเงิน 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อวิจัยกลไกการทำงานของสมอง

จริงๆแล้ว การวิจัยพื้นฐานที่เป็นเวลายาวนานด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ทำให้การวิจัยและพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ในสหรัฐฯ ประสบความก้าวหน้าสำคัญ ก็เนื่องจากได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากรัฐบาล ทำให้สถาบันการวิจัยและมหาวิทยาลัยต่างๆในสหรัฐได้สร้างศูนย์คอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยและมีเครือข่ายที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ได้อุบรมบุคลากรด้านอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมาก ทำให้สหรัฐฯกลายเป็นประเทศที่มีปัญญาประดิษฐ์พัฒนาก้าวหน้ามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ประเทศต่างๆในโลก ไม่ว่า เยอรมันหรือญี่ปุ่นต่างก็ได้วางแผนและลงทุนมากมายเพื่อพัฒนาปัญญาประดิษฐ์

ในขณะที่ปัญญาประดิษฐ์จะเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์มากมายนั้น ก็อาจจะนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อมนุษย์ด้วย เนื่องจาก

ประการแรก ปัญญาประดิษฐ์จะทดแทนมนุษย์ในการผลิต ผู้เชี่ยวขาญเห็นว่า ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีไม่สามารถทดแทนมนุษย์ทั้งหมด เมื่อทศวรรษปี 1990 ขณะเครื่องยนต์ทดแทนแรงงานมนุษย์และขยายบทบาทสำคัญในการผลิตนั้น แรงงานบางส่วนกลัวตกงานจึงประท้วง แต่เวลาได้ยืนยันว่า การพัฒนาของเศรษฐกิจและวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีจะนำมาซึ่งโอกาสใหม่ และเพิ่มตำแหน่งงานให้มากยิ่งขึ้น

In/LJ