วันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมานี้ กรมสถิติแห่งชาติจีนเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)และดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI) ของเดือนพฤษภาคมปี 2016 โดยระบุว่า ดัชนี CPI เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว ปรับตัวลดลง 0.5% แต่เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 2% ส่วนดัชนี PPI เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% แต่เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีที่แล้วลดลง 2.8% การปรับตัวนี้แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจจีนมีสภาพการหมุนเวียนที่มั่นคงยิ่งขึ้น ในอนาคต การรักษานโยบายที่เกี่ยวข้องให้มั่นคงและต่อเนื่องจะเป็นหน้าที่สำคัญในด้านมหาภาค

จากข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของดัชนี CPI นักวิเคราะห์เห็นว่า ตัวแปรสำคัญมาจากราคาผักที่ลดลง ราคาผักสดเดือนพฤษภาคมเมื่อเทียบกับเดือนที่แล้วลดลง 21.5% ส่งผลกระทบ 0.64%ต่อการลดลงของดัชนี CPI

จากข้อมูลการเปลี่ยนแปลงของดัชนี PPI จะพบว่า ได้มีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 เดือน แต่ถึงเดือนพฤษภาคม กลับปรับเพิ่มขึ้น 0.5% แม้ว่า ตัวเลขนี้ดูแล้วจะเล็กน้อย แต่นักวิเคราะห์มองว่า แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงนี้แสดงถึงเศรษฐกิจจีนที่กำลังขยับเข้าสู่ระยะมั่นคงยิ่งขึ้น

หากมองในด้านทางอุตสาหกรรมจะพบว่า การผลิตที่มาจากการขุดเจาะน้ำมันดิบ แก๊สธรรมชาติ การแปรรูปน้ำมัน ถ่านหิน และการถลุงโลหะต่างก็ได้ลดลง 21.5% 15.6% 10.2% และ7.7% ตามลำดับ ซึ่งจะส่งผลกระทบ 1.7% ของการลดลงของดัชนี PPI ทั้งหมด

สำหรับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของดัชนี CPIและ PPI ในอนาคตนั้น นายเจ้า ซีจน รองผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยการเงินและพันธบัตรมหาวิทยาลัยเหรินหมินจีนคาดว่า เนื่องจากดัชนี CPI และ PPI ในปัจจุบันมีสภาพที่ค่อนข้างมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมองจากปัจจัยที่อาจจะมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของดัชนี CPI อย่าง ราคาผักสดและเนื้อ ซึ่งปัจจุบันมีสภาพที่มั่นคงแล้วนั้น ตนมองว่า ดัชนี CPI จะคงรักษาสภาพที่มั่นคงต่อไป

Toon/LJ