เยี่ยมเยือนโบราณสถานตามเส้นทางสายไหม (1-1)
  2016-07-14 10:56:08  cri

ในที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 38 องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ที่จัดขึ้นที่กรุงโดฮาเมืองหลวงกาตาร์นั้น จีน คาซัคสถานและคีร์กีสถานร่วมกันเสนอให้เส้นทางสายไหมเป็นมรดกโลกด้วยความสำเร็จ นับเป็นมรดกโลกข้ามชาติที่จีนมีส่วนร่วมรายแรก

เส้นทางสายไหมรวมถึงโบราณสถาน 33 แห่งใน 3 ประเทศดังกล่าว ส่วนที่ยู่ในจีนมีกว่า 20 แห่ง กระจายตามมณฑลส่านซี เหอหนาน กันซู่และเขตปกครองตนเองซินเจียง

1.เจดีย์ห่านฟ้าใหญ่

เจดีย์ห่านฟ้าใหญ่ตั้งอยู่ในวัดต้าฉือเอินชานเมืองทิศใต้ของเมืองซีอาน

เป็นเจดีย์โบราณที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองซีอาน หรือชื่อเดิมฉางอาน เป็นเมืองหลวงของหลายราชวงศ์จำนวนมากที่สุดและยาวนานที่สุด ตั้งแต่สมัยซีโจว ฉิน ซีฮ่านและถังเป็นต้นรวมทั้งหมด 13 ราชวงศ์ตั้งเมืองหลวงอยู่ที่นี่ ผ่านเวลากว่า 1,100 ปี มีชื่อเสียงพอๆ กับกรุงเอเธนส์ โรม และไคโร ซึ่งเป็นเมืองหลวงชื่อดังที่สุด 4 แห่งของโลก

เคยมีกษัตริย์กว่า 100 องค์อาศัยอยู่ในเมืองนี้ รวมทั้ง จิ๋นซีฮองเต้และบู เช็กเทียน ฮ่องเต้หญิงองค์แรกของจีน ในช่วงเจริญที่สุดของสมัยราชวงศ์ถัง กรุงฉางอานเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหม และปัจจุบันยังคงฐานะเป็นชุมทางสำคัญของทวีปเอเชีย-ยุโรป

2.เจดีย์ห่านฟ้าเล็ก

เจดีย์ห่านฟ้าเล็กและเจดีย์ห่านฟ้าใหญ่อยู่คนละทิศของเมืองฉางอาน เมื่อสมัยฮ่องเต้ถังเกาจง (ราวค.ศ. 652) มีการผันเงินสร้างเจดีย์ที่วัดต้าฉือเอินเพื่อเก็บพระคำภีร์ที่ "พระถังซัมจั๋ง" นำมาจากอินเดีย และตั้งชื่อเจดีย์ห่านฟ้า ต่อมา ในรัชสมัยฮ่องเต้ถังจงจง (ราวค.ศ.707) ก็มีการผันเงินสร้างเจดีย์อีกแห่งหนึ่งที่เล็กกว่าในวัดจิ้นฝู หลังจากนั้น เพื่อให้ชาวบ้านจำชื่อ 2 วัดนี้ได้อย่างชัดเจน จึงตั้งชื่อเจดีย์ห่านฟ้าใหญ่ให้กับเจดีย์ในวัดฉือเอิน ส่วนเจดีย์ในวัดจิ้นฝูนั้น มีลักษณะเหมือนกับเจดีย์ห่านฟ้าใหญ่ แต่จะเล็กกว่า จึงตั้งชื่อเจดีย์ห่านฟ้าเล็ก ซึ่งเดิมมี 15 ชั้น ปัจจุบันเหลือ 13 ชั้น สูง 43.4 เมตร เป็นตัวอย่างของเจดีย์ที่ก่อขึ้นจากอิฐโบราณจีน

3.ป้อมเชิงเทินเค่อเจอเออคาฮา

ป้อมเชิงเทินเค่อเจอเออคาฮาตั้งอยู่ชานเมืองทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองคู่เชอเขตปกครองตนเองอุยกูร์ซินเจียง เป็นชื่อภาษาอุยกูร์ แปลว่า ป้อมสีแดง เป็นสิ่งก่อสร้างทางทหารในสมัยโบราณที่ผ่านมากว่า 2,000 ปี เป็นซากโบราณสถานที่เป็นป้อมเชิงเทินที่เก่าแก่ที่สุดและรักษาไว้อย่างดีที่สุดตามเส้นทางสายไหม

เชิงเทินเป็นมาตรการเตือนภัยทางทหารในสมัยโบราณของจีน คือถ้ามีศัตรูบุกเข้ามาในช่วงกลางวัน ทหารที่เฝ้าอยู่ในป้อมจะเผากองหญ้าเพื่อให้มีควันลอยขึ้นท้องฟ้า และส่งต่อสัญญาณนี้จนไปถึงค่ายทหารให้นายพลรับทราบ ส่วนกลางคืนก็จะจุดกองไม้ เพื่อมีไฟสีแดงขึ้น ทำให้ค่ายทหารที่อยู่ห่างไกลสามารถเห็นได้ และส่งทหารมาสู้รบ

ถ้าเป็นป้อมขนาดใหญ่ ก็จะมีทหารประจำการจำนวนมาก สามารถสู้รบกับศัตรูได้ โดยทั่วไปแล้ว จะมีการสร้างป้อมทิ้งช่วงห่าง 5 กิโลเมตร โดยมีสัญลักษณ์ว่า ถ้ามีศัตรู 500 คน จะจุดควันและจุดไฟ 1 ดอก 1,000 จะจุด 2 ดอก ป้อมต่อไปเมื่อเห็นนี้ก็จะส่งต่อสัญญาณนี้

(In/Lin)

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040