ขณะนี้ เสี่ยวหลงได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญจีนไปแล้ว แต่ก็ยังคิดจะพาลูกเมียกลับโตโก บ้านเกิดของเขา สาเหตุสำคัญคือ นโยบายวีซ่าที่เข้มงวด แม้แต่งงานกับคนจีนและมีลูก อีกทั้งซื้อบ้านซื้อรถแล้ว แต่ทุกปีต้องวิ่งเต้นเพื่อต่ออายุวีซ่า และต้องพกพาสปอร์ติดตัวไว้ตลอด เพราะจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจบ่อยๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาถูกควบคุมตัวที่โรงพักนานถึง 5 ชั่วโมง เพราะพอดีอยู่ในช่วงต่ออายุวีีซ่า พาสปอร์ตจึงไม่ได้ติดตัวไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัยว่าเขาเป็นคนเถื่อน หลังเช็คกับหน่วยงานทำวีซ่าแล้วจึงปล่อยตัว ปีหลังๆ นี้ เมืองกว่างโจวออกนโยบายควบคุมวีซ่าสำหรับชาวแอฟริกันเข้มงวดขึ้น ทำให้ชาวแอฟริกันที่ไปทำธุรกิจที่เมืองกว่างโจวซึ่งตอนนี้มีหลายหมื่นคนพากันคิดจะกลับประเทศของตน เสี่ยวหลงก็ได้ตัดสินใจแล้วจะพาลูกเมียกลับบ้านในแอฟริกา
ก่อนเดินทางกลับแอฟริกา เสี่ยวหลงกับภรรยาพาลูกชาย 2 คนกลับไปเยี่ยมพ่อแม่และญาติๆ ของภรรยาที่มณฑลอันฮุย พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ทำกับข้าวเต็มโต๊ะเลี้ยงต้อนรับครอบครัวเสี่ยงหลง ทำให้เสี่ยงหลงรู้สึกเหมือนกลับบ้านของตน ชาวบ้านแถวนั้นไม่เคยเห็นชาวแอฟริกัน แม้รู้สึกแปลกหูแปลกตา แต่ก็ทักทายกันด้วยความใจดี เสี่ยวหลงมีความรู้สึกว่าชาวบ้านที่นี่กับชาวเมืองกว่างโจวไม่เหมือนกัน คนที่นี่น่ารัก ไม่ค่อยมีอคติต่อคนผิวดำ