เปา ปิ่นซง วัย 46 ปี เป็นชาวหมู่บ้านกูเฟิง เมืองซวนเฉิง มณฑลอันฮุย บ้านพักที่มี 2 ชั้นของเขาเป็นที่สะดุดในหมู่บ้าน และถ้าดูจากสภาพตอนนี้ คงยากที่จะนึกออกว่าเมื่อต้นปี 2015 ครอบครัวของเปา ปินซงยังอาศัยอยู่ในห้องเก่าทรุดโทรมที่ก่อสร้างขึ้นนานกว่า 40 ปี

เนื่องจากเปา ปิ่นซงมีพี่น้องหลายคน หลังจากเขาแต่งงานกับภรรยาในปี 1995 ก็ได้รับมรดกเป็นห้องขนาด 2 ห้องและที่ดิน 1 โหม่ว(ราว 666 ตร.ม.) และมีลูกสาวกับลูกชาย ซึ่งชีวิตครอบครัวอยู่กันยากลำบากเนื่องจากยังชีพด้วยการปลูกนาในพื้นที่ 1 โหม่ว เจ้าหน้าที่หมู่บ้านกูเฟิงเล่าว่าเห็นครอบครัวเปา ปิ่นซงยากจนมาก จึงเสนอให้ความช่วยเหลือ แต่เปา ปิ่นซงว่าอยากพึ่งตัวเอง และพยายามออกไปหางานทำที่ต่างถิ่นด้วย แต่เพราะไม่มีทักษะฝีมือด้านใดเป็นพิเศษ รายได้จึงไม่มากเท่าไหร่ และหลังจากลูกทั้งสองคนเริ่มเรียนหนังสือก็ยิ่งทวีความยากลำบากของครอบครัว

หมู่บ้านกูเฟิงตั้งอยู่ทิศใต้ของมณฑลอันฮุย ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก แต่ในหมู่บ้านมีโรงงานผลิตร่มผ้าเคลือบน้ำมันแห่งหนึ่ง เปา ปิ่นซงจึงได้รับการแนะนำให้ไปเรียนรู้วิธีทำร่มผ้าเคลือบน้ำมันกับโรงงานในปี 2005 และต่อมาปี 2011 ภรรยาก็เข้าไปทำงานที่นี่ด้วยอีกคน ปัจจุบัน เปา ปิ่นซงและภรรยาได้กลายเป็นกำลังสำคัญของโรงงานแล้ว ทุกเดือนมีเงินเดือน 6,000 หยวน

ต้นปี 2015 เปา ปิ่นซงจึงจัดการรื้อห้องพักเก่าขนาด 2 ห้องสร้างใหม่เป็นตึก 2 ชั้น เปา ปิ่นซงกล่าวว่า ความยากจนไม่น่ากลัว หากพยายามพึ่งพาตัวเองขยันมุมานะอย่างเต็มที่ เชื่อว่าแค่ 2 มือของแต่ละคนก็สามารถสร้างตัวให้พ้นจากสภาพยากจนได้

(Yim/zheng)