วันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พรรคการเมืองต่างๆ ของเกาหลีใต้ยื่นญัตติเริ่มกระบวนการตรวจสอบพิเศษและหนังสือขอตรวจสอบเหตุการณ์ทางการเมืองต่อรัฐสภา แต่ถูกพรรครัฐบาลคัดค้านอย่างรุนแรง จึงไม่เป็นผล หลังจากสำนักงานอัยการแห่งชาติเกาหลีใต้ประสบความล้มเหลวในการเริ่มต้นการสอบสวนนางสาวปาร์ก กึนเฮ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ซึ่งเดิมกำหนดจะมีขึ้นในวันที่ 16 พฤศจิกายน ต่อมาได้แจ้งให้นางสาวปาร์ กึนเฮทราบอีกครั้งหนึ่งว่าต้องมาให้ปากคำอย่างช้าที่สุดภายในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ เหตุการณ์ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ปล่อยให้เพื่อนสนิทก้าวก่ายการบริหารประเทศบานปลายต่อไป พรรคฝ่ายค้านระดมประชาชนจัดกิจกรรมจุดเทียนแทนประชามติล้านคน เรียกร้องให้นางสาวปาร์ก กึนเฮลาออก แต่ทำเนียบประธานาธิบดีไม่ให้คำตอบใดๆ สื่อมวลชนเกาหลีใต้คาดว่า การเมืองอาจตกอยู่ในความวุ่นวาย

วันที่ 16 พฤศจิกายนที่่ผ่านมา สำนักงานเลขาธิการทำเนียบประธานาธิบดีระบุว่า ความเป็นระเบียบของระบอบการเมืองที่ถือรัฐธรรมนูญเป็นพื้นฐานถูกตัดขาดไม่ได้ หากประธานาธิบดีลาออกจากตำแหน่งภายใต้สถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจต่างอยู่ในภาวะวิกฤต ประเทศชาติจะประสบภัยมหันต์

สรุปว่า นางสาวปาร์ก กึนเฮจะไม่ลาออกทันที และจะไม่บอกว่าเมื่อไรจะลงจากเก้าอี้ประธานาธิบดี วันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นางสาวปาร์ก กึนเฮแต่งตั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ และจะจัดประชุมเลขานุการเอกในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้แสดงว่าเธอกำลังฟื้นฟูการบริหารประเทศและเตรียมสู้กับฝ่ายค้านให้ถึงที่สุด สื่อมวลชนคาดว่า นางสาวปาร์ก กึนเฮจะเจรจากับหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ ต่อไป และจะให้ปากคำกับอัยการ อีกทั้งจะหาโอกาสกล่าวปราศรัยต่อมวลชนเป็นครั้งที่ 3 เพื่อแก้ตัวและฟื้นฟูความเชื่อถือของประชาชน

นักวิเคราะห์เห็นว่า นับตั้งแต่มีการยื่นฟ้องกล่าวโทษประธานาธิบดีต่อศาลไปจนถึงศาลตัดสิน ต้องใช้เวลา 6 เดือน นางสาวปาร์ก กึนเฮสามารถใช้ช่วงนี้ฟื้นฟูความเชื่อถือของประชาชน และหากศาลไม่ยอมรับการยื่นฟ้องกล่าวโทษ สถานการณ์ก็อาจพลิกล็อค