จีนกำลังจะพัง หรือกำลังพัฒนาเจริญเติบโตอย่างมั่นคงต่อไป เราขอเสนอตัวเลขจาก 3 ด้าน คือ เศรษฐกิจ เทคโนโลยีและการทหารเพื่อแสดงให้เห็นว่า กำลังของประเทศจีนในปัจจุบันเป็นอย่างไง

ด้านเทคโนโลยี

2. การทหาร

ปีนี้มีการประกาศผลการจัดอันดับกำลังรบทั่วโลก (GFP) ซึ่งเป็นดัชนีสำคัญที่ประเมินกำลังรบของประเทศสำคัญในโลก สหรัฐฯ รัสเซียและจีนยังคงครอง 3 อันดับแรกติดต่อกันในช่วหลายปีที่ผ่านมา

เราคงไม่เสนอตัวเลขว่าจีนมีเครื่องบินรบหรือรถถังกี่คัน ซึ่งจำนวนนี้สามารถค้นหาทางอินเตอร์เน็ตได้ แต่จะให้ความสำคัญกับศักยภาพทางทหารของจีน กล่าวได้ว่า ศักยภาพทางทหารของจีนไม่เพียงแต่สูงกว่ารัสเซียอย่างมาก ทว่าสูงกว่าสหรัฐฯ อีกด้วย

ปัจจุบัน จีนมีอุตสาหกรรมการผลิตทางทหารครอบคลุมด้านมากที่สุดและเข้มแข็งที่สุดของโลก นิตยสารรายสัปดาห์มิลิทรี อินดัสเตรียล เคาริเอร์(Military-Industrial Courier) ที่ป็นสื่อสำคัญด้านการทหารของรัสเซียออกบทความชี้ว่า ปริมาณการผลิตเครื่องรบของจีนใน 1 ปีก็มากกว่าจำนวนรวมของ 28 ประเทศนาโต โดยมีการผลิตเครื่องบินรบรุ่นJ-11B J-15 J-16 J-10 JF-17 เครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่น H-7 H-6M/K K-8 และ L-15 ปริมาณาการผลิตต่อปีสามารถติดตั้งให้กับกองทัพอากาศ 2 กอง จีนอาศัยกำลังการผลิตด้านอุตสาหกรรมที่ใหญ่หลวงและการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่รวดเร็ว ชนะการแข่งขันในด้านนี้อย่างง่ายๆ

ด้านการต่อเรือ ถ้ากำลังผลิตด้านการต่อเรือของจีน 1% มาใช้ในการผลิตทางทหาร ก็สามารถบรรลุเป้าหมายผลิตกองเรือรบให้เสร็จและลงน้ำได้ 1 กอง ติดตั้งอุปกรณ์ให้กับกองเรือรบ 1 กอง และเตรียมสร้างกองเรือรบ 1 กอง

ปี 2013 จีนผลิตเรือรบทันสมัยรุ่นต่างๆ 28 ลำ ติดอันดับ1ของโลก ปี 2014 จีนมีอู่ต่อเรือ 735 แห่ง ยอดระวางการขับน้ำของเรือที่ต่อในแต่ละปีประมาณ 80 ล้านตัน

เรือรบบรรทุกเครื่องบินรุ่นฟอร์ด (Ford) ของสหรัฐฯ ได้รับการขนานนามว่า เรือรบสุดยอดของโลก ความยาว 333 เมตร กว้า 77 เมตร ถ้าจีนทุ่มกำลังทั้งหมดในการต่อเรือรบบรรทุกเครื่องบินรุ่นฟอร์ด สามารถที่จะทำได้ในอู่ต่อเรือ 30 แห่งพร้อมกัน แต่ในสหรัฐฯ มีเพียงอู่ต่อเรือนิวพอร์ท นิวส์ (Newport News Shipyard) แห่งเดียวเท่านั้นที่สามารถต่อเรือรบบรรทุกเครื่องบินรุ่นนี้

จนถึงปัจจุบัน จีนได้ยิงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงพิเศษทั้งหมด 7 ครั้งด้วยความสำเร็จ แต่สหรัฐฯ ไม่สามารถประสบความสำเร็จเท่ากับจีน

ปัจจุบัน จีนได้วิจัยและผลิตเครืองบินรบล่องหนรุ่น J20 J30 เครื่องบินรบไร้คนขับ เครื่องบินขนส่งขนาดใหญ่รุ่ง อวี้น – 20 เครื่องบินเตือนภัยทางกาอากาศขนาดใหญ่รุ่น คงจิ่ง – 2000 เรือรบบรรทุกเครื่องบินรุ่น 001A เรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์รุ่น 094 /093 ขีปนาวุธยุทธศาสตร์รุ่น DF31A/DF41 รถถังรุ่น 99G ขีปนาวุธต่อต้านขีปนาวุธระยะกลาง ขีปนาวุธต่อต้านดาวเทียม และขีปนาวุธเลเซอร์ ซึ่งล้วนเป็นอาวุธทันสมัยที่ตามทันสหรัฐอเมริกา

นอกจากนั้น ยังได้วิจัยผลิตขีปนาวุธรุ่น DF26/DF21D ซึ่งเป็นขีปนาวุธนำร่องต่อต้านเรือรบบรรทุกเครื่องบิน ผลิตเครื่องบินรบล่องหน J-20 ที่เป็นเครื่องบินรบรุ่นที่ 4 ในจำนวนที่เหมาะสม ส่วนเครื่องบินรบรุ่น F-35 ที่สหรัฐฯ เรียกว่าเป็นเครื่องบินรบรุ่นที่ 5 นั้น ยังคงมีปัญหาอีกมาก จึงต้องหันมาผลิตเครื่องบินรบรุ่น F-22 อีกที แต่ไม่ทราบว่ามีงบฯ พอหรือไม่ ขณะที่การคลังสหรัฐฯ เผชิญกับแรงกดดันอย่างยิ่ง ไม่มีเงินไปติดตั้งประตูรักษาความปลอดภัยในรถไฟใต้ดินของนครนิวยอร์ก

ปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายทางทหารของจีนเป็นเพียง 3.3% ของอุตสาหกรรมการผลิต แต่สหรัฐอเมริกาสูงถึง 32.4% ซึ่งถือว่าสุดขีดความสามารถแล้ว จีนใช้งบทางทหารที่คิดเป็น 1.5% ของ จีดีพี ก็สามารถทำให้ปริมาณการผลิตเครื่องบินรบและเรือรบติดอันดับ 1 ของโลก ถ้าเพิ่มงบฯ ขึ้นเป็น 4% ของจีดีพี แม้สหรัฐฯ ก็คงไม่อยากแข่งกับจีนอีกแล้ว

เมื่อร้อยกว่าปีก่อน ประเทศตะวันตกยกทัพระดับหลายร้อยนาย ก็สามารถตีทะลุทั่วประเทศจีน เมื่อหลายสิบปีก่อน ทหารญี่ปุ่นหลายหมื่นนายสามารถไล่ตีทหารจีนหลายแสนนายในแผ่นดินจีน ยึดแผนดินจีน 2 ใน 3 ฆ่าคนจีนกว่า 10 ล้านคน

ความฝันของชาวจีนคงง่ายๆ คือไม่อยากให้สภาพดังกล่าวเกิดขึ้นอีกครั้งในจีน

(In/Lin)