เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลต่อจีนมากน้อยแค่ไหน
  2016-12-16 19:25:36  cri
เมื่อเช้าวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดจัดประชุมครั้งสุดท้ายในปี 2016 โดยมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีกทั้งคาดการณ์ว่าปี 2017 จะปรับขึ้นอีก 3 ครั้ง มากกว่าการคาดการณ์ของที่ประชุมเฟดในเดือนกันยายนที่คาดว่าจะปรับขึ้น 2 ครั้ง

จนถึงเวลา 08.00 น. ของวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ตก ดัชนีดอลลาร์สหรัฐขึ้น 1% ทะลุ 102 สร้างสถิติสูงสุดในช่วง 14 ปีที่ผ่านมา กำไรหนี้สินระยะสั้นที่คำณวนด้วยดอลลาร์สหรัฐพุ่งสูงขึ้น ราคาทองคำตกถึง 1,140 ดอลลาร์สหรัฐ ราคาน้ำมันปิโตรเลียมตกลงกว่า 3%

วันเดียวกัน อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเหยินหมินปี้กับดอลลาร์สหรัฐปรับลด 261 จุด อยู่ที่ 6.9286 สร้างสถิติต่ำสุดในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา

ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ส่งผลต่อตลาดการเงินของจีนไม่มาก การที่ก่อนหน้านี้เฟดเคยประกาศหลายครั้งว่าจะขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ตลาดเตรียมพร้อมแล้วที่จะรับมือกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจริงในครั้งนี้ สิ่งสำคัญคือแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2017 ของเฟด

นายเซียว ลี่เซิ่ง รองผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยการเงินโลก สถาบันเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ สภาสังคมศาสตร์จีนเห็นว่า รัฐบาลจีนควรเฝ้าติดตามการไหลออกของเงินทุน ขณะนี้ อัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรจีนและสหรัฐฯ ใกล้เคียงกันมาก หากสหรัฐฯ ปรับขึ้ันอัตราดอกเบี้ยอีกในเร็วๆ นี้ จนทำให้อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ สูงกว่าจีน เงินทุนก็จะไหลออกนอกประเทศมากขึ้น

นายหมิง หมิง ผู้จัดการฝ่ายวิจัยตลาดหลักทรัพย์จงซิ่นเห็นว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ บวกกับอีก 3 ครั้งในปีหน้า หมายถึงอัตราดอกเบี้ยและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะสูงขึ้นอย่างแน่นอน นโยบายการเงินจีนต้องเผชิญกับการท้าทายที่มากขึ้น ธนาคารกลางของจีนอาจออกนโยบายอัตราดอกเบี้ยลอยตัว หรือจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินที่รัดกุม กระทั่งถูกบีบให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นายเจียง เชา นักวิเคราะห์ตลาดหลักทรัพย์ไห่ทงเห็นว่า หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในช่วงครึ่งหลังปี 2017 ค่าเงินหยวนอาจต้องตกลงอีก แต่อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต้องขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจ ดังนั้น จีนต้องทุ่มกำลังในการปฏิรูปเศรษฐกิจ เพิ่มประสิทธิภาพของการเติบโต

นายเซียว ลี่เซิ่งเห็นว่า ในเมื่อเฟดจะหาจุดสมดุลระหว่างเงินเฟ้อกับการเติบโต จึงย่อมจะชะลอฝีก้าวของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยของประเทศต่างๆ ทั่วโลกมีความแตกต่างกันมาก การที่สหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงฝ่ายเดียว จะก่อความวุ่นวายให้ตลาดทั่วโลก ปัญหาหนี้สินของยุโรปและญี่ปุ่นจะหนักขึ้น

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040