วัดหลงฉวนกรุงปักกิ่ง--2
  2017-01-04 14:54:25  cri

วัดแห่งนี้ไม่เหมือนกับวัดธรรมดาในเขตอื่น เป็นวัดที่ไม่ต้องเสียค่าเข้า

เมื่อเดินทางถึงหน้าประตูวัดหลงฉวนที่เป็นประตูที่ไม่ค่อยใหญ่นั้นจะเห็นต้นสนที่มีประวัติกว่า 600 ปี 2 ต้น หลังผ่านผนังภายนอกอาคารที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์แล้ว จะเห็นต้นแปะก๊วยตัวผู้กับตัวเมียอีก 2 ต้นและต้นสนอีก 2 ต้น ซึ่งต่างมีประวัติกว่าพันปี เมื่อข้ามสะพานจิงหลงแล้วจะถึงวิหารเทพสุวรรณ วิหารพระกษิติโพธิสัตว์ และวิหารเจ้าแม่กวนอิม เป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างใหม่ทั้งสิ้นโดยเป็นให้จุดธุปเทียน ขอพร ส่วนทั้งสองข้างยังมีสิ่งก่อสร้างต่างๆ ซึ่งเป็นกุฎิและที่ทำการของพระภิกษุและอาสาสมัคร

เหตุที่วัดแห่งนี้เป็นวัดยอดฮิตทางอินเตอร์เน็ต เพราะมีสิ่งแตกต่างกับวัดอื่นๆ ที่สำคัญคือ ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยในการเผยแผ่พุทธศาสนา เช่น อนิเมชั่น โซเชียลมีเดีย เน็ตเวิร์กและคิวอาร์โค๊ตเป็นต้น พระสงฆ์ที่วัดบางรูปจบการศึกษาจากสถาบันชั้นนำด้านเทคโนโลยีของจีน มีรูปหนึ่งสอบเข้าสถาบันเอ็มไอทีได้ แต่สละสิทธิ์เพื่อมาบวชที่นี่ ซึ่งสร้างความฮือฮาไปทั่วจีนอยู่ระยะหนึ่ง ยังมีข่าวลือว่า ขณะสวดมนต์ พระสงฆ์ในวัดจะใช้ Ipad แทนหนังสือสวดมนต์ในอดีต พระเสียนสุ้นเล่าว่า สำหรับโทรศัพท์มือถือ โน๊ตปุ๊ค คอมพิวเตอร์หรือผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆนั้น ทางวัดเข้มงวดการใช้ ให้ใช้เฉพาะผู้ที่จำเป็นต้องใช้ ส่วนคนอื่นห้ามใช้ ขณะสวดมนต์ พระสงฆ์ใช้หนังสือสวดนมต์ ก่อนหน้านี้ บนเน็ตเคยมีการโพสต์ภาพที่พระสงฆ์สวดมนโดยใช้ Ipad นั้นไม่ใช่วัดหลง ฉวน พระเสียนสุ้นยังเล่าว่า วัดหลง ฉวนมีการจำกัดว่า เราจะใช้นิวไฮเทค ก็เพื่อเผยแพ่พระธรรมคำฐานของศาสนาพุทธ เพราะในสังคมปัจจุบัน โดยเฉพาะหนุ่นสาวต้องใช้ผลิตภัณฑ์นิวไฮเทคจึงจะเข้าถึงพวกเขาได้ แต่เทคโนโลยีใหม่ๆเหล่านี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติภาวนาของพระสงฆ์

อย่างเจ้าอาวาสวัดได้เปิดไมโครบล็อกทางอินเตอร์เน็ต และใช้วีแชท เพื่อประชาสัมพันธ์และตอบคำถามเกี่ยวกับพุทธ์ศาสนา ปี 2011 พระเสียนฝันยังสร้างกาตูนเสียนเอ้อร์เพื่อประชาสัมพันธ์ ปี 2013 ได้วิจัยและผลิตหุ่นยนต์ชื่อ เสียนเอ้อร์ ซึ่งมีเซ็นเซอร์สามารถจับความเคลื่อนไหวรอบตัว สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับพุทธศาสนาได้ ซึ่งจะทำให้เข้าถึงผู้คนได้มากกว่า เจ้าอาวาสวัดเล่าว่า หุ่นยนต์ เสียนเอ้อร์เป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้เทคโนโลยีให้สอดคล้องกับเรื่องศาสนาที่ผู้คนมองว่าโบราณไม่ทันไม่สมัย และเป็นตัวอย่างที่ดีว่า พระสงฆ์สามารถใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กในทางสร้างสรรค์ได้

เช่น หุ่นยนต์ เสียนเอ้อร์ สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับการบวชและจุดประสงค์ของการบวชได้ดีมาก อย่างการบวช วัดหนึ่งเปิดรับสมัครผู้สนใจมาบวชเป็นพระ แต่เมื่อเณรน้อยบอกข้อกำหนดเท่านั้นคนก็เริ่มเผ่น เช่น ต้องกินเจ ถือพรหมจรรย์ รักษาศีลอย่างเคร่งครัด เณรน้อยเห็นคนพากันเผ่นก็เสียใจ ถามอาจารย์ว่า ทำไมคนถึงไม่มาบวชกัน

เณรน้อย ถามว่า "หลวงพ่อครับ ออกบวชแล้วเราจะได้ปัญญาความรู้แจ้ง หลุดพ้นจากการเกิดการตายไม่จบสิ้น หรือช่วยเหลือสรรพสัตว์ข้ามพ้นสังสารวัฏก็ยังได้ ขนาดนี้แล้วแต่ทำไม่ไม่มีคนมาบวชเลยล่ะครับ

หลวงพ่อ ตอบว่า "การบวช ต้องอาศัยจิตใจที่มุ่งมั่นให้พ้นจากโลกียะ กับจิตใจที่มุ่งมั่นจะกลับมายังโลกียะอีกครั้ง เพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นจากบ่วงทุกข์"

คำถามตอบนี้เป็นหลักพื้นฐานของพุทธศาสนามหายาน คือ แสวงหาโพธิญาณด้วย ช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ด้วย ซึ่งหมายถึง จิตใจของโพธิสัตว์นั่นเอง

คำถามนี้ ยังเป็นความสงสัยพื้นฐานของคนทั่วไปโดยเฉพาะคนที่ห่างเหินจากพุทธศาสนา ไม่เข้าใจว่า พระสงฆ์จะบวชไปทำไม พระเป็นกาฝากสังคมหรือไม่

แม้ว่าวัดหลง ฉวนมีชื่อเสียงโด่งดังและยอดฮิตในเน็ตก็ตาม แต่เจ้าอาวาสวัดกล่าวว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของพระสงฆ์ในวัดเราไม่ได้เปลี่ยนแปลง ก็เหมือนกับพระสงฆ์ในวัดอื่น ต้องตื่นก่อนตี 4 ทุกวันและสวดมนต์ สิ่งที่เราอยากจะทำคือเผยแผ่พุทธศาสนา

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040