เทศกาลชิงหมิง(清明节 ขิง หมิง เจี๋ย) ตรงกับวันที่ 108 หลังเทศกาลตงจื้อ(冬至) ซึ่งเป็นหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญที่สุดของจีน เป็นวันที่กลางวันสั้นที่สุดและกลางคืนยาวที่สุด โดยปกติจะเป็นวันที่ 21 หรือ 22 หรือ 23 ของเดือนธันวาคม ดังนั้น เทศกาลชิงหมิงจะเป็นวันที่ 4 หรือ 5 ของเดือนเมษายนของทุกปี เป็น 1 ใน 4 เทศกาลเซ่นไหว้ที่สำคัญที่สุดของจีน
เทศกาลชิงหมิงเริ่มมีตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจว มีประวัติศาสตร์กว่า 2,500 ปีแล้ว นอกจากชาวฮั่นแล้ว ในจีนยังมีชนชาติส่วนน้อยอีก 24 ชนชาติมีประเพณีเซ่นไหว้และทำความสะอาดสุสานในช่วงนี้ด้วย
การเซ่นไหว้บูชาในช่วงชิงหมิงแบ่งเป็นการเซ่นไหว้ในสุสานและในศาลรวมป้ายชื่อผู้เสียชีวิต ชาวจีนโดยทั่วไปจะเซ่นไหว้บูชาที่สุสานมากกว่า ชาวจีนมักเรียกกันว่า "扫墓"หรือเส่ามู่ แปลว่าทำความสะอาดสุสาน ส่วนการเซ่นไหว้ในศาลนั้น เป็นการเซ่นไหว้บรรพบุรุษของทั้งตระกูล พอเสร็จพิธีเซ่นไหว้ จะมีการรับประทานอาหารร่วมกัน ถือเป็นโอกาสที่ทั้งครอบครัวอยู่พร้อมหน้ากัน พิธีเซ่นไหว้มักมี 2 ส่วน คือทำความสะอาดสุสานและเผากระดาษเงิน จัดของเซ่นไหว้
ตามฮองจุ้ยของจีน บรรพบุรุษมีความผูกพันธุ์กับลูกหลานรุ่นหลังอย่างใกล้ชิด ดังนั้น ช่วงชิงหมิง กลับบ้านเกิดไปเซ่นไหว้บรรพบุรุษจะดีกว่า เพื่อขอบพรรพบุรุษคุ้มครองปกป้องลูกหลานให้มีความราบรื่นในการทำงานและการใช้ชีวิต ถ้าติดธุระกลับบ้านไม่ได้ ก็ควรจัดพิธีเซ่นไหว้ที่บ้าน จัดอาหาร จุดธูป 3 ดอก และคุกเข่าไหว้ 3 ครั้งหันหน้าไปยังทิศของบ้านเกิด ของให้บรรพบุรุษปกป้องคุ้มครอง แล้วเผากระดาษเงิน
เวลาไปเซ่นไหว้บรรพบุรุษและผู้ที่เสียชีวิตนั้น นอกจากทำพิธีเซ่นไหว้ตามประเพณีแล้ว ยังมีข้อระมัดระวังหรือข้อต้องห้ามดังนี้
1. ผู้หญิงที่อยู่ในช่วงมีครรภ์ไม่ควรไปเขตสุสาน
ผู้หญิงมีครรภ์ไม่ไปร่วมพิธีเซ่นไหว้จะดีกว่า บางคนเล่าว่า ในเขตสุสานมีลม"หยิน"(ตามทฤษฎีหยินหยาง 阴阳ของจีน) เมื่อว่าที่คุณแม่ติดลมหยินมาก จะส่งผลกระทบต่อตัวเองและลูกในท้อง อีกด้านหนึ่ง ช่วงชิงหมิง ในเขตสุสานมีคนแน่น สำหรับผู้หญิงมีครรภ์แล้ว จะไม่ปลอดภัย และอากาศยังหนาวอยู่ โดยเฉพาะสุสานมักตั้งอยู่ในเขตภูเขา ลมแรง ทำให้เป็นหวัดง่าย นอกจากนี้ ผู้หญิงที่กำลังมีประจำเดือน ก็ไม่ควรเข้าร่วมกิจกรรมประเภทนี้ด้วยเช่นกัน
2. อย่าถ่ายรูปในสุสาน
การไปเขตสุสาน ก็เพื่อทำความสะอาดสุสาน เซ่นไหว้บรรพบุรุษหรือผู้ที่จากไปแล้ว ไม่ใช่เพื่อการท่องเที่ยว ดังนั้น ควรมีความเคารพ ตั้งใจเซ่นไหว้ ไม่ควรถ่ายรูปตามอำเภอใจ รูปหมู่ยิ่งไม่ควรถ่าย ไม่งั้นอาจจะทำให้ "หยิน" กับ "หยาง" ในร่างกายไม่สมดุลกัน จนส่งผลกระทบต่อโชคชะตาของผู้ถ่ายรูปก็ได้
3. ห้ามแต่งชุดสีสดใสเจิดจ้า
เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า ไม่ควรแต่งตัวสีสดใสเจิดจ้าไปเซ่นไหว้ในเขตสุสาน ถือเป็นการไม่ให้ความเคารพต่อผู้ที่จากไปแล้ว
4. อย่าไปร่วมการเซ่นไหว้กับครอบครัวอื่น
คนจีนถือไม่ยอมให้คนภายนอกมาร่วมการเซ่นไหว้ของครอบครัว อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ามีความใกล้ชิดถึงขนาดไหน ถ้ายังไม่ใช่สมาชิกครอบครัวเดียวกัน ก็ต้องต่างคนต่างเซ่นไหว้บรรพบุรุษและผู้ที่จากไปของครอบครัวตนเองดีกว่า มีความเชื่อว่า ถ้าไปร่วมพิธีเซ่นไหว้ของบ้านอื่น อาจทำให้โชคร้าย
5. อย่าไปเซ่นไหว้ขณะสุขภาพไม่ดีหรือกำลังอยู่ในช่วงที่โชคไม่ดี
ถ้าป่วยอยู่ สุขภาพไม่แข็งแรง ร่างกายอ่อนแอ หรือกำลังอยู่ในช่วงที่โชคไม่ดี ไม่ราบรื่น อย่าไปร่วมการเซ่นไหว้ดีกว่า เพราะคนเหล่านี้กำลังอยู่ในสภาพไม่ดี การไปร่วมเซ่นไหว้ จะทำให้เกิดความเศร้า ท้อแท้ใจ ไม่เป็นผลดีต่อการปรับตัวปรับใจให้ดีขึ้น