สถิติปรากฏว่า ปี 2015 ชาวจีนอ่านหนังสือเฉลี่ยคนละ 4.58 เล่ม น้อยกว่าเกาหลีใต้ที่เป็น 11 เล่ม ฝรั่งเศส 20 เล่มและญี่ปุ่น 40 เล่ม ดังนั้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนอ่านหนังสือมากขึ้น โดยเฉพาะคุณภาพการอ่านหนังสือของเยาวชน มาตราฉบับรับความคิดเห็นดังกล่าวระบุว่า สำนักพิมพ์ควรเสนอสิ่งพิมพ์แบบขั้นบันใด คือระบุว่า หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้มีอายุเท่าไร
มาตราดังกล่าวยังส่งเสริมให้หอสมุดของโรงเรียนและสถาบันศึกษาเปิดให้ประชาชนเข้าไปอ่าน ส่งเสริมให้ร้านหนังสือประชาสัมพันธ์สิ่งพิมพ์ดีเด่น และจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมการอ่านหนังสือ นายชุย เหวยผู้อำนวยการหอสมุดมหาวิทยาลัยแพทย์แผนโบราณจีนเมืองฉางชุนกล่าวว่า มาตรดังกล่าวทำให้สถาบันศึกษาชั้นสูงสามารถแสดงบทบาทในการส่งเสริมการอ่านของสังคม
บุคคลแวดวงที่เกี่ยวข้องเห็นว่า ปัจจุบันเป็นยุคอิเล็กทรอนิกส์ ชาวจีนที่อ่านหนังสือผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จำนวนคนที่อ่านหนังสือจากวีแชทเกินกว่าครึ่งหนึ่ง การอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ของชาวจีนเฉลี่ยวันละ 1 ชั่วโมง นับว่าบรรลุเป้าหมายที่มีการอ่านหนังสือทุกวัน แต่การอ่านหนังสือจากมือถือ วีแชทและคอมพิวเตอร์อินเตอร์เน็ต มีลักษณะเด่นคือ "เป็นการอ่านที่ไม่ลึก" ซึ่งต่างกับการอ่านหนังสือกระดาษ ที่คงทำให้ผู้อ่านมีความรู้รอบตัวมากขึ้นและลึกซึ้งยิ่งขึ้น ฉะนั้น ควรส่งเสริมให้ประชาชน "อ่านหนังสืออย่างลึก" ด้วยรูปแบบต่างๆ
(In/Lin)
