สำนักข่าวซินหวารายงานว่า ระหว่างวันที่ 4-7 เมษายนนี้ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เดินทางเยือนฟินแลนด์และต่อด้วยการพบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่รัฐฟลอริดาของสหรัฐอเมริกา เมื่อการเดินทางครั้งนี้เสร็จสิ้นลง นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนได้เผยถึงผลการเยือนครั้งนี้แก่สื่อมวลชน

โดยกล่าวว่า ในสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุด นโยบายภายในประเทศและการทูตของสหรัฐฯ เป็นที่จับตาของทั่วโลก และกระบวนการสร้างประชาคมยุโรปเกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ ครั้งนี้ นายสี จิ้นผิงจึงเดินทางไปเยือนทั้งยุโรปและสหรัฐฯ มีนัยสำคัญ การเดินทางครั้งนี้ไม่เพียงประสบผลสำเร็จอย่างมาก ทั้งยังได้ส่งเสริมความมั่นคงและเพิ่มกำลังทางบวกในการพัฒนาของประชาคมโลกดังนี้

๑. สืบทอดมิตรภาพที่มีมาช้านาน ผลักดันความสัมพันธ์จีน-ฟินแลนด์ก้าวขึ้นอีกขั้น

นายหวัง อี้ กล่าวว่า การเยือนฟินแลนด์ของนายสี จิ้นผิงครั้งนี้ ได้เปิดหน้าใหม่ของประวัติความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ได้พัฒนาความสัมพันธ์จีน-ยุโรปให้มั่นคงยิ่งขึ้น

จีนและฟินแลนด์ได้เข้าสู่ขั้นใหม่ของความสัมพันธ์ทวิภาคี ในขณะเดียวกัน ผู้นำสองประเทศยังเห็นด้วยที่จะเชื่อมต่อแผนพัฒนา เปิดวงการความร่วมมือใหม่ เช่นนวัตกรรมเทคโนโลยี พลังงานสะอาด การประหยัดพลังงานและรักษาสภาพแวดล้อม และการศึกษาวิจัยขั้วโลกเหนือ เป็นต้น นอกจากนี้ นายสี จิ้นผิง ยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างละเอียดกับผู้นำฟินแลนด์ในประเด็นแผนการพัฒนาอย่างยั่งยืนปี 2030 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น สองฝ่ายตกลงที่จะส่งเสริมการติดต่อการประสานงานในกิจการทั่วโลกและภูมิภาค ส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงของโลก ผลักดันระบบบริหารโลกให้พัฒนาด้วยความยุติธรรมและมีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น

การเยือนครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่นายสี จิ้นผิง เยือนยุโรปเหนือ ในฐานะเป็นผู้นำสูงสุดของจีน แสดงให้เห็นความสำคัญของความสัมพันธ์จีน-ยุโรป จีนและฟินแลนด์จะส่งเสริมการประสานงานและการแลกเปลี่ยนกัน ผลักดันความร่วมมือจีน-ยุโรปเหนือให้พัฒนาอย่างลุ่มลึกยิ่งขึ้น ช่วยให้ภาพรวมความสัมพันธ์จีน-ยุโรปพัฒนา สื่อมวลชนและบุคคลวงการต่างๆ ของยุโรปเห็นว่า การเยือนยุโรปของนายสี จิ้นผิง ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นความมั่นใจของจีนต่ออนาคตของยุโรป ความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายจะใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

๒. ส่งเสริมยุทธศาสตร์การแลกเปลี่ยนระดับสูง ชี้นำให้ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ พัฒนาอย่างมั่นคงและยั่งยืน

นายหวัง อี้ กล่าวว่า ในฐานะประเทศใหญ่ของโลก ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ มีความสำคัญอย่างยิ่ง การรักษาความสัมพันธ์สองประเทศให้พัฒนาอย่างมั่นคงยั่งยืน ไม่เพียงสอดคล้องกับประโยชน์ขั้นพื้นฐานของประชาชนสองประเทศ ทั้งยังเป็นความปรารถนาของประชาคมโลก ในช่วงเวลากว่า 1 วัน ผู้นำสองประเทศพบกันหลายครั้ง โดยได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในปัญหาทั่วโลกและระหว่างประเทศที่สองประเทศสนใจร่วมกันอย่างลึกซึ้ง และบรรลุข้อตกลงสำคัญต่างๆ สองฝ่ายเห็นว่า การพบกันครั้งนี้ประสบผลสำเร็จอย่างมาก

การพบกันครั้งนี้ช่วยให้ผู้นำสองประเทศเข้าใจกันและเชื่อถือกัน โดยได้กำหนดทิศทางและหลักการในการพัฒนาของความสัมพันธ์สองประเทศ ผู้นำทั้งสองได้ชื่นชมผลคืบหน้าของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ เห็นด้วยที่จะผลักดันให้พัฒนาต่อไปในจุดเริ่มต้นใหม่ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนสองประเทศและประเทศอื่นๆ

การพบกันครั้งนี้ได้วางแผนกลไกและวงการความร่วมมือสำคัญ สองฝ่ายเห็นด้วยที่จะผลักดันการค้าและการลงทุนให้พัฒนาด้วยดี ผลักดันการเจรจาข้อตกลงการลงทุนทวิภาคี ปรึกษาหารือความร่วมมือในแวดวงพลังงานและสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน เป็นต้น จีนเน้นว่า จะไม่มุ่งหาการเกินดุลทางการค้า หวังว่า สหรัฐฯ คลี่คลายข้อจำกัดการส่งออกต่อจีน เพื่อส่งเสริมความสมดุลของการค้าทวิภาคี สองฝ่ายยินดีส่งเสริมการแลกเปลี่ยนกันของกองทัพสองประเทศ ส่งเสริมความร่วมมือของตุลาการและความปลอดภัยทางอินเตอร์เน็ต เป็นต้น ผู้นำจีนและสหรัฐฯ ประกาศสร้างกลไกการเจรจาระดับสูง 4 กลไก ได้แก่ การเจรจาทางการทูตและความมั่นคง การเจรจาทางเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน การเจรจาเพื่อการปฏิบัติการตามกฎหมายและความปลอดภัยทางอินเตอร์เน็ต การเจรจาเกี่ยวกับสังคมและวัฒนธรรม ซึ่งเป็นผลสำคัญของการพบกันครั้งนี้

๓. แนะนำแนวคิดการพัฒนาของจีน

นายหวัง อี้ กล่าวว่า ระหว่างการเยือน ประธานาธิบดีจีนได้แนะนำแนวคิดการพัฒนาของจีนให้กับต่างประเทศ เน้นว่า จีนจะยืนหยัดในยุทธศาสตร์เปิดประเทศ อำนวยประโยชน์ต่อกันเพื่อประสบผลสำเร็จร่วมกัน ยินดีส่งเสริมให้ประเทศจีนและประเทศต่างๆ พัฒนาร่วมกัน เป็นประชาคมร่วมทุกข์ร่วมสุข พยายามทำให้ความฝันจีนที่จะฟื้นความเจริญรุงเรืองของจีนเป็นจริงขึ้น และสร้างคุณูปการมากขึ้นในการผลักดันสันติภาพและการพัฒนาของโลก

In/Chu