นายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ ชื่นชมพรรคคอมมิวนิสต์จีนสามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ภายใต้สถานการณ์ที่สลับซับซ้อนทั้งในและต่างประเทศ นำพาประชาชนพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างรวดเร็ว เขากล่าวว่า
"ที่ผ่านมาช่วง 5 ปีของจีน จีดีพีโตปีละกว่า 7% มองว่าเป็นผลจากการที่รัฐบาลนำการลงทุนด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานด่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านทางด่วนหรือรถไฟความเร็วสูง ซึ่งการลงทุนเหล่านี้ส่งผลต่อการคมนาคม มีผลบวกต่อการขนส่งสินค้า การเดินทางของประชาชน"
นายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ เห็นว่าข้อริเริ่มความร่วมมือระหว่างประเทศในการร่วมกันสร้าง "1 แถบ 1 เส้นทาง" ตามข้อเสนอของนายสี จิ้นผิง เป็นการสร้างสรรค์ที่น่ายกย่องที่สุดด้านการต่างประเทศของจีนตั้งแต่ "สมัชชาฯ 18" เป็นต้นมา ซึ่งมีบทบาทที่ไม่อาจทดแทนได้ในการสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ เขากล่าวว่า
"มองในทางด้านการพัฒนา นี่คือโครงการแห่งศตวรรษ คือ วิน-วิน โปรเจ็กท์ ที่จะเชื่อมต่อคน เชื่อมการค้า และก็เชื่อมโลก เป็นการเปิดแนวคิดใหม่ของการสร้างความร่วมมือระดับนานาชาติในการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ทั้งทางด้านทางบกและทางทะเล"
นายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ ระบุว่าสมาคมผู้สื่อข่าวไทย-จีนเคยจัดสัมมนาหลายครั้งเกี่ยวกับความร่วมมือ "1 แถบ 1 เส้นทาง" และย้ำว่า การที่นานาประเทศมีส่วนร่วมในความร่วมมือ "1 แถบ 1 เส้นทาง" อย่างกว้างขวาง ถือเป็นสัมฤทธิผลที่น่าภาคภูมิใจของจีนในเวทีโลกยุคนี้ ช่วยสร้างเสริมภาพลักษณ์ของจีน ซึ่งเชิดชูสันติภาพและการพัฒนา อำนวยประโยชน์แก่กันและได้ชัยชนะด้วยกัน เข้าถึงจิตใจชาวโลกมากขึ้นกว่ายุคก่อนๆ และนับวันได้รับความเห็นชอบจากนานาประเทศมากขึ้น เขาระบุว่า
"ถ้ามองในทางด้านการเมือง นี่คือวิธีการขยายอิทธิพลของจีนแบบนิ่มนวล ไม่ใช่แบบชาติตะวันตกเมื่อก่อนที่ใช้กองทัพ ใช้อาวุธ ใช้อำนาจเข้าครอบงำหรือว่ายึดครอง แต่จีนเอาด้านผลประโยชน์ร่วมในอนาคตมาเป็นข้อเสนอ แล้วก็เชิญชวนให้นานาประเทศเข้าร่วมมือโดยความสมัครใจ เส้นทางสายไหมทางทะเลยุคใหม่ทำให้นานาชาติเปลี่ยนความคิดความรู้สึกต่อจีน เลิกกลัวคอมมิวนิสต์ กลายเป็นว่า จีนยุคนี้เป็นจีนแห่งการพัฒนา เป็นเรื่องของการสร้างสรรค์ และก็สร้างความร่วมมือระดับนานาชาติ"
นายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ กล่าวทิ้งท้ายว่า วงการต่างๆ ของไทยกำลังศึกษาประสบการณ์และรูปแบบของจีนอย่างจริงจัง เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ เขาระบุว่า
"ก่อนจะทำอะไร จีนจะประกาศเป้าหมายชัดเจน มีการกำหนดเส้นทางเดิน วิธีการ แล้วผู้นำของจีนก็จะถือธงนำทาง มีการส่งต่อธงให้กับผู้นำรุ่นต่อๆ ไปรับช่วงรับนโยบาย ดังนั้น ในแต่ละเรื่อง ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว สุดท้ายก็จะบรรลุเป้าหมาย"
(YIM/LING)