ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จีนลดจำนวนประชากรยากจน 68 ล้านคน
  2018-03-15 10:56:59  cri

ขณะนี้ ที่กรุงปักกิ่ง การประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนประจำปี 2018 กำลังดำเนินการในวาระต่างๆ บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนประชาชนร่วมกันใช้ความพยายามเพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น รวมถึงประเด็นสำคัญอย่างการแก้ไขปัญหาความยากจน

เมื่อสิ้นปี 2017 นาย จิม ยอง คิมประธานธนาคารโลกกล่าวในการประชุมแถลงข่าวประจำปีของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟว่า ผลงานของจีนในด้านการลดจำนวนประชากรที่มีความยากจน เป็นหนึ่งในตำนานที่ยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ จีนสามารถแก้ไขปัญหาความยากจนของประชากร 8,00 ล้านคน ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าเรียนรู้

เขากล่าวว่า ตั้งแต่ปี 1990 พร้อมๆ กับกระบวนการการปฏิรูปทางเศรษฐกิจและการเข้าสู่ตลาดโลก จีนได้ช่วยประชากรจำนวน 800 ล้านคนพ้นจากความยากจน ทำให้อัตราส่วนประชากรยากจนของโลกลดลงจาก 40% มาเป็น 10% ของปัจจุบัน ซึ่งถือว่าจีนได้สร้างคุณูปการในส่วนนี้

นาย จิม ยอง คิมกล่าวว่า ธนาคารโลกกำลังร่วมมือกับจีนในหลายด้าน อย่างเช่น การให้บริการทางสังคม การรักษาพยาบาลที่เพียงพอแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ถิ่นทุรกันดาร ในขณะเดียวกันก็ช่วยเหลือการพัฒนาของจีน ธนาคารโลกยังจะเรียนรู้และสร้างความเข้าใจต่องานด้านการลดความยากจนของจีน เพื่อนำประสบการณ์และบทเรียนไปเผยแพร่ในประเทศอื่นๆ

เมื่อเร็วๆ นี้ หนังสือพิมพ์ "อินเดียไทมส์" รายงานว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จีนช่วยประชากร 68.53 ล้านคนพ้นจากความยากจน ซึ่งเท่ากับลดจำนวนประชากรยากจนลงประมาณ 13 ล้านคนต่อปี อัตราการความยากจนในชนบทจีนลดลงจาก 10.2 % ของสิ้นปี 2012 มาเป็น 3.1% ของสิ้นปี 2017 รัฐบาลจีนยังคงวางแผนที่จะขจัดความยากจนให้หมดไปภายในปี 2020 สร้างสังคมคนชั้นกลางให้เป็นขึ้น ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าอันยิ่งใหญ่ของโลก

สำนักสถิติแห่งชาติจีนประกาศตัวเลขสถิติแสดงให้เห็นว่า จนถึงสิ้นปี 2017 จีนยังมีประชากรในชนบทจำนวน 30.46 ล้านคน ที่ยังถือว่ายากจนตามมาตรฐานของจีน ด้านสำนักงานช่วยเหลือผู้ยากจนแห่งคณะรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า ปี 2018 จีนจะมีประชากร 10 ล้านคนที่พ้นจากความยากจน และมี 100 อำเภอจะหลุดพ้นจากความยากจน ซึ่งหมายถึงสัดส่วนประชากรผู้ยากจนที่มีรายได้ต่ำกว่า 2,300 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 11,500 บาท ต่อปีจะไม่เกิน 2%

โดยผู้กำหนดนโยบายของจีนได้กำหนดนโยบายการลดความยากจน การป้องกันความเสี่ยงขนาดใหญ่และป้องกันมลภาวะเป็นภาระหน้าที่สำคัญในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยจะกำหนดมาตรฐานการบริการขั้นพื้นฐานระดับต่ำสุดทั่วประเทศ รวมถึงการศึกษา การรักษาพยาบาลและการดูแลผู้สูงวัย รัฐบาลกลางจะเป็นผู้รับผิดชอบงบประมาณส่วนใหญ่ของเขตที่ยากจนที่สุดทั่วประเทศ

เมื่อเร็วๆ นี้ หนังสือพิมพ์ เอล ไพส (El País) ของสเปนรายงานข่าว มีชาวบ้านกสิกรรมซึ่งเป็นชนเผ่าทิเบตกลุ่มหนึ่งใช้ชีวิตบนที่ราบสูงชิงจ้าง ช่วงฤดูที่อบอุ่น ทุ่งหญ้าสีเขียวมีน้ำใสไหลผ่าน พวกเขาจะกางเต็นท์ริมฝั่งทะเลสาบชิงไห่เพื่อเลี้ยงแพะและวัวทิเบต เมื่อถึงฤดูหนาว ก็จะนำกลุ่มแพะและวัวย้ายไปฟาร์มปศุสัตว์ฤดูหนาว ซึ่งเป็นสถานที่อาศัยประจำ มีห้องพักที่อบอุ่น

รายงานข่าวดังกล่าวระบุว่า ภายใต้นโยบายการดูแลพิเศษของรัฐบาลกลางจีน ประชาชนทิเบตใช้ชีวิตทันสมัยที่สะดวกและสบาย ขณะเดียวกัน มณฑลชิงไห่ ซึ่งเป็นมณฑลที่ติดกับเขตปกครองตนเองทิเบต ยังเป็นเขตที่ด้อยพัฒนา และเป็นจุดสำคัญที่อยู่ในแผนลดจำนวนประชากรยากจนก่อนปี 2020 ของรัฐบาลจีน นี่ก็เป็นประเด็นสำคัญในการประชุม "สองสภา" ปีนี้ของจีน

รายงานข่าวดังกล่าวยังระบุว่า การบรรลุเป้าหมายการขจัดความยากจนของจีนยืนยันให้เห็นว่า นโยบายปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ครอบคลุมทั่วประเทศ นี่จะเป็นผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สำหรับรัฐบาล

สถิติทางการจีนปรากฏว่า ปี 2016 ประชากรยากจนในเขตชนบทของจีนลดลง 12.4 ล้านคน ในจำนวนนี้มี 100,000 คนเป็นของมณฑลชิงไห่ ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา รัฐบาลจีนได้จัดงบฯ เกินกว่า 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อช่วยเหลือประชากรผู้ยากจนในชนบทที่มีรายได้ต่ำว่า 2,300 หยวน หรือประมาณ 11,500 บาทต่อปี ให้พ้นจากความยากจน

ตั้งแต่ทศวรรษปี 1990 รัฐบาลจีนเริ่มดำเนินนโยบายบุกเบิกพัฒนาเขตภาคตะวันตกจีน เพิ่มการลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในเขตตะวันตก เช่น การก่อสร้างสนามบิน รถไฟความเร็วสูง อ่างเก็บน้ำและทางหลวง เป็นต้น ตั้งแต่ปี 2003 รัฐบาลจีนยังได้ดำเนินนโยบายลดการปศุสัตว์เพื่อฟื้นฟูภาวะนิเวศทุ่งหญ้า ทั้งนี้เนื่องจากสาเหตุที่ว่า การปศุสัตว์ที่ไม่มีการจำกัดพื้นที่ ทำให้พื้นที่สีเขียวบนที่ราบสูงชิงไห่กลายเป็นทะเลทรายมากขึ้น และในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ลงทุนก่อสร้างแหล่งที่อยู่อาศัยประจำสำหรับการเลี้ยงสัตว์ 80 แห่ง เพื่อให้ชาวปศุสัตว์ใช้ชีวิตทันสมัย มีน้ำประปา โทรทัศน์ จนถึงได้รับการศึกษาและบริการการรักษาพยาบาล วิธีการใช้ชีวิตของชาวปศุสัตว์แตกต่างจากสมัยก่อนอย่างมาก

เมื่อเร็ว นี้ หนังสือพิมพ์ "Frankfurter Allgemeine Sonntagszeitung" ของเยอรมันรายงานว่า เมื่อทศวรรษปี 1990 จีนขยับขึ้นเป็นประเทศใหญ่ทางเศรษฐกิจอันดับ 7 ของโลก เวลานั้น โรงแรมจินเม่าเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นโรงแรม 5 ดาวที่สูงที่สุดของโลกเปิดใช้บริการ แต่ในหมู่บ้าน "ไป่หนี่" ของมณฑลกุ้ยโจว ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ที่ห่างจากนครเซี่ยงไฮ้ประมาณ 1,500 กิโลเมตร ยังคงใช้ชีวิตแบบหิวโหย โดยข้าวสารและอาหารที่เก็บจากการทำนายังน้อยมาก มีแต่สามารถทำข้าวต้มกินทุกมื้อเท่านั้น เนื้อหรือปลายิ่งไม่กล้าคิดเลย ซึ่งเวลานั้นมีประชากรจีนประมาณ 3 ใน 4 ที่ใช้ชีวิตแบบนี้

ในเดือนมกราคมปีนี้ (2018) รถยนต์คันหนึ่งกำลังวิ่งขึ้นทางหลวงและเข้าสู่หมู่บ้าน"ไป่หนี่"ที่อยู่ท่ามกลางภูเขา รถคันนี้บรรทุกคอมพิวเตอร์ และเครื่องพิมพ์เลอโนโวเครื่องใหม่ 5 เครื่อง ทางหลวงนี้สร้างเสร็จเมื่อหลายปีก่อน เครือข่ายอินเตอร์เน็ตก็กำลังครอบคลุมเขตนี้อยู่ ผู้นำจีนกำหนดเป้าหมายที่จะพัฒนาเขตแดนชั้นในที่ทุรกันดารของจีนให้กลายเป็นแหล่งที่ทันสมัย ภูเขาดิจิตอลอันกว้างใหญ่ไพศาลเหล่านี้อาจจะเป็นคู่แข่งของซิลิคอนวัลเลย์ของอเมริกาในอนาคต

รายงานข่าวระบุว่า นับตั้งแต่ปี 1978 ที่จีนดำเนินนโยบายเปิดประเทศและปฏิรูปทางเศรษฐกิจเป็นต้นมา มีประชากรกว่า 700 ล้านคนพ้นจากความยากจน จนถึงขณะนี้ อัตราการลดความยากจนยังคงลดลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง เมื่อ 5 ปีก่อน จีนยังมีประชากรยากจน 100 ล้านคน แต่จนถึงปัจจุบันมีเหลือไม่ถึง 40 ล้านคน และอินเตอร์เน็ตก็เป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพสูง ที่จะช่วยขจัดปัญหาประชากรยากจนให้หมดสิ้น ถ้าสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้ ในปี 2021 ซึ่งเป็นช่วงที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนฉลองการก่อตั้งพรรคฯ ครบ 100 ปี จะถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมแก่ชาวโลก

รายงานข่าวระบุว่า เหมือนกับรูปแบบที่ใช้ทั่วประเทศ รัฐบาลก็ได้สร้างจุดอีคอมเมริซ์แห่งหนึ่งในหมู่บ้าน"ไป่หนี่" นำประชาชนในหมู่บ้านทำความเข้าใจเกี่ยวกับ "แพลตฟอร์มข้อมูลในอากาศ (Data cloud platform)" และสอนให้ชาวนานำข้าวสารและใบชาที่เก็บและผลิตเองใส่ในถุงห่อที่ออกแบบเอง เพื่อนำไปขายในร้านอินเตอร์เน็ต ข้าราชการท้องถิ่นที่เป็นสมาชิกพรรคฯ คนหนึ่งกล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า "สำหรับประชาชนท้องถิ่น นี่ถือเป็นเรื่องที่ยากมาก เมื่อชาวนานั่งตรงหน้าจอคอมพิมเตอร์ เปรียบเสมือนการเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ต้น แต่พวกเขาพยายามเรียนรู้และทำได้จริงๆ " จนถึงสิ้นปีนี้ ข้าราชการคนนี้ได้อบรมชาวบ้านในหมู่บ้าน กว่า 100 คน และสามารถทำการค้าขายทางอินเตอร์เน็ตได้

นักวิเคราะห์คาดว่า ตั้งแต่ปีนี้จนถึงปี 2020 เจ้าหน้าที่ทางการของจีนพยายามที่จะสร้างทางหลวงที่เชื่อมต่อหมู่บ้านทั่วประเทศ ขณะเดียวกันจะประชาสัมพันธ์ให้นักธุรกิจเข้าไปพัฒนากิจการในเขตชนบท สร้างบ้านพักใหม่ให้ประชาชนในเขตยากจนอยู่ฟรี และยังมีการออกนโยบายปล่อยเงินกู้ให้กับผู้ยากจน เพื่อช่วยพวกเขาสร้างตัวให้พ้นจากสภาพยากจนด้วยการขยันทำงาน

(Bo/Lin)

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040