ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา นายโดนัล ทรัมพ์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ซึ่งระบุว่า มติตามผลการตรวจสอบ "มาตรา 301" จะเพิ่มการเก็บภาษีศุลกากรสินค้าที่นำเข้าจากจีนเป็นการเฉพาะ อีกทั้งจำกัดนักธุรกิจจีนที่ไปลงทุนและควบรวมกิจการในสหรัฐฯ นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา รัฐบาลนายโดนัล ทรัมพ์ยังได้เริ่มจำกัดการนำเข้าสินค้าประเภทเหล็ก เหล็กหล้า และอะลูมิเนียมจากหลายประเทศ โดยจะเก็บภาษีศุลกากรสินค้าประเภทเหล็ก เหล็กหล้าในอัตราร้อยละ 25 ส่วนอะลูมิเนียมจะเก็บในอัตราร้อยละ 10 ส่งผลให้ 3 ดัชนีหลักในตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดลงด้วยอัตราลดลง โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดิ่งลงฮวบฮาบกว่า 700 จุดในชั่วข้ามคืน
(TIM/LING)
