43 ปีแห่งการต่อสู้ สู่ความฝันที่สูงถึง 8,844.43 เมตร (1)
  2018-07-19 09:41:26  cri

เซี่ย โป๋อวี๋ ชายสูงอายุจีนวัย 69 ปี เป็นคนพิการไร้ขาทั้งสองข้าง เมื่อถอดขาเทียมเขาความสูงเพียง 1.21 เมตร แต่เขากลับมีความฝันที่มีความสูงถึง 8,844.43 เมตร สิ่งนั้น คือ การไปพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ จุดสูงสุดบนโลก ด้วยแรงปรารถนาอันไม่ลดละของเซี่ย โป๋อวี๋ ทำให้เขาใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุดเป็นเวลากว่า 43 ปี จนกระทั่งเวลา 08.26 น.ของวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นของเนปาล นายเซี่ย โป๋อวี๋ ได้ปีนถึงยอดเขาเอเวอเรสต์ได้สำเร็จ หลังจากใช้เวลาทั้งหมด 7 วัน และนี่ถือเป็นความพยายามครั้งที่ 5 ของเขาในการพิชิตยอดเขาแห่งนี้ ทำให้เขาเป็นคนพิการที่พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ที่อายุมากที่สุดในโลก หากจะย้อนเรื่องราวก่อนที่ความฝันของเซี่ย โป๋อวี๋สำเร็จลงนั้น คงต้องย้อนกลับไปเมื่อ 43 ปีก่อน ...

เซี่ย โป๋อวี๋ เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1949 ปีเดียวกันของการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน ในปีค.ศ.1974 เซี่ย โป๋อวี๋ ถูกเลือกเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีมปีนเขาแห่งชาติจีน และในปีถัดมา หนุ่มที่ชื่อเซี่ย โป๋อวี๋ วัย 26 ปี ที่กำลังอยู่ในช่วงที่สภาพร่างกายแข็งแรงที่สุด ถูกจัดให้อยู่ในทีมพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ของจีนในปีค.ศ. 1975 และถือเป็นการพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ครั้งแรกของเซี่ย โป๋อวี๋ การปีนเขาในครั้งนั้น เซี่ย โป๋อวี๋ และเพื่อนร่วมทีมอีกหลายคนได้ปีนไปถึงที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 8,600 เมตร ซึ่งห่างจากเป้าหมายอีกเพียงแค่ 200 เมตรกว่า ๆ เท่านั้น แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย หิมะตกหนักและมีลมแรงมาก ทีมนักปีนเขาจำเป็นต้องถอยร่นลงมาอีกหลายร้อยเมตร และพักค้างคืนในบริเวณที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 7,600 เมตร ในคืนนั้น เพื่อนร่วมทีมชนเผ่าทิเบตคนหนึ่งทำถุงนอนหายระหว่างหนีพายุหิมะ และกำลังล้มป่วยอย่างหนัก เซี่ย โป๋อวี๋ จึงเสียสละถุงนอนของเขาให้กับเพื่อนคนนี้ ทำให้ตัวเขาเองต้องทนนอนกับความหนาวเหน็บภายใต้อุณหภูมิลบ 35 องศาโดยไม่มีถุงนอน เป็นสาเหตุให้เท้าของเขาถูกน้ำแข็งกัด และต้องตัดเท้าทั้งสองข้างออก

เชื่อว่า คนส่วนใหญ่เพื่อพบอุบัติเหตุเช่นนี้แล้ว มักจะผิดหวัง ท้อแท้ ซึ่งเซี่ย โป๋อวี๋ก็เคยหมดกำลังใจท้อแท้ไปช่วงหนึ่ง จนเมื่อเขาได้ใส่เท้าเทียม ความหวังของเขาในการไปปีนเขาเอเวอเรสต์ก็กลับมาอีกครั้ง เขาจึงทุ่มเทฝึกซ้อมร่างกายของตัวเอง การที่เท้าเทียมและขาต้องเสียดสีกันอยู่เสมอ ทำให้เลือดไหลไม่หยุด แต่เซี่ย โป๋อวี๋ก็ไม่เคยหยุดออกกำลังกาย จนในที่สุดเขาได้เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และจำเป็นต้องตัดขาท่อนล่างทั้งสองข้างออกไปอีก แม้ชะตาชีวิตจะค่อนข้างโหดร้ายกับเขา แต่เขาก็ยังคงมองในแง่ดีมาโดยตลอด โดยเขาบอกว่า "การไปปีนเขาเอเวอเรสตให้ได้อีกครั้งเป็นกำลังใจที่ทำให้ผมอยู่ต่อสู้จนถึงทุกวันนี้ ผมได้ทำทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อไปถึงเป้าหมาย และผมจะไม่มีวันยอมแพ้" ประโยคแบบนี้แม้จะพูดจากปากได้ง่าย แต่เพื่อรักษาคำพูด แม้ต้องเผชิญกับความเจ็บปวด ความยากลำบากมากแค่ไหน ไม่มีใครทราบได้ยกเว้นเซี่ย โป๋อวี๋ ที่ใช้ความพยายามมาตลอดกว่า 40 ปี

ระยะเวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมา เปลี่ยนเซี่ย โป๋อวี๋ จากชายหนุ่มที่มีพละกำลังคนหนึ่งเป็นชายชราวัยคุณปู่ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย นั่นก็คือ ความฝันที่จะพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ สำหรับตัวเขาเองแล้ว ปัญหายากที่สุดคือ การทำอย่างไรให้สามารถรักษาสภาพร่างกายให้แข็งแรงพอที่จะปีนเขาเอเวอเรสต์ได้ ดังนั้น เขาจึงได้กำหนดแผนการฝึกซ้อมที่เข้มงวดมาก ทุกวันเขาตื่นแต่ตี 5 ฝึกท่าสควอท (Squat) ขณะแบกน้ำหนักไปด้วย 1,500 ครั้ง เพื่อกระชับกล้ามเนื้อของต้นขาและสะโพก ฝึกวิดพื้น 360 ครั้ง เพื่อเสริมกล้ามเนื้อหลัง และฝึกท่าซิทอัพ 180 ครั้ง ขณะเดียวกัน เซี่ย โป๋อวี๋ ยังไปปีนเขาเซียงซานสัปดาห์ละ 4 - 7 ครั้ง นอกจากนี้แล้ว เพื่อที่จะมีประสบการการปีนภูเขาหิมะด้วยขาเทียมให้มากพอ เซี่ย โป๋อวี๋ ได้ไปปีนภูเขาหิมะหลายลูก เช่น ภูเขาหิมะมูซถัก อาตา (Muztag Ata) ความสูง 7,546 เมตร ภูเขาอวี้จูเฟิง สูง 6,178 เมตร ภูเขาสี่ดรุณี ที่มียอดเขาหลักสูง 6,250 เมตร และภูเขาปาหลังซาน รวมทั้งเดินไกลผ่านทะเลทรายถึงเก๋อหลี่ของมองโกเลียใน แม้ว่าทุกครั้งเขามักจะได้รับบาดเจ็บบ้าง แต่ก็ไม่คิดที่จะหยุดการฝึกซ้อม เมื่อพักผ่อนช่วงหนึ่งแล้วก็รีบกลับไปฝึกซ้อมต่อไป

(Tim/Zi)

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040