วันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นโอกาสครบรอบ 40 ปี การลงนามใน สนธิสัญญาว่าด้วยมิตรภาพและสันติภาพ ระหว่างจีนกับญี่ปุ่น นายหลี่ เค่อเฉียง และนายชินโซ อาเบะ ต่างส่งสารแสดงความคิดเห็นระหว่างกันว่า สองฝ่ายยินดีกระชับความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์แก่กัน เพื่อส่งเสริมความพันธ์ระหว่างจีน-ญี่ปุ่นให้ดำเนินไปอย่างราบรื่นและมั่นคง
เมื่อมองความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างจีน-ญี่ปุ่น เริ่มตั้งแต่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ สำหรับธุรกิจญี่ปุ่นแล้ว ประเทศจีนในสมัยนั้นเหมาะสำหรับเป็น "ฐานการผลิตที่ใช้ต้นทุนต่ำ" และสำหรับประเทศจีน ธุรกิจญี่ปุ่นสามารถนำมาซึ่งเงินทุน อุปกรณ์ และเทคโนโลยี ดังนั้น ญี่ปุ่นจึงกลายเป็นประเทศหุ้นส่วนทางการค้าใหญ่สุดของจีนในเวลาอันสั้น
ข้อมูลจากกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (METI) ระบุว่า ในปี ค.ศ. 1990 นอกจากเขตฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวันแล้ว ญี่ปุ่นได้จัดตั้งบริษัทในประเทศจีนถึง 160 แห่ง ต่อมาในปี ค.ศ. 2001 จำนวนบริษัทได้พุ่งสูงขึ้นเป็น 1,600 แห่ง
ตลอด 40 ปี การพัฒนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-ญี่ปุ่น มีลักษณะที่เด่นชัดที่สุด คือ เศรษฐกิจการค้าระหว่างสองประเทศไม่อาจแยกออกจากกันได้ จีนได้ครองฐานะประเทศหุ้นส่วนทางการค้าใหญ่ที่สุดติดต่อกันเป็นปีที่ 11 ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2007 ถึงปี ค.ศ. 2017 ขนาดการส่งออกของญี่ปุ่นไปยังประเทศจีนสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 14.89 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 6 ล้านล้านเงินเยนเมื่อเทียบกับปี ค.ศ. 2005
(Tim/Zi/Zheng)