ระหว่างการแข่งขันที่รุนแรงทั่วโลกในเวลานี้ ยุโรปซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำการจัดระเบียบโลก กำลังเผชิญกับความลำบาก ช่วงที่ผ่านมา นายเอมมานูเอล มาครง（Emmanuel Macron） ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ในฐานะแกนนำสหภาพยุโรป ได้พยายามแสดงบทบาท ในกิจการต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีการกล่าวปาฐกถาต่อที่ประชุมคณะทูตฝรั่งเศสในต่างประเทศ เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีใจความสำคัญว่า เชิดชูระบบพหุภาคี แสดงให้เห็นว่า ฝรั่งเศสกำลังมุ่งมั่นนำพาสหภาพยุโรปให้หลุดพ้นจากภาวะยากลำบาก

นายเอมมานูเอล มาครงระบุว่า ระบบพหุภาคีโลกกับการพัฒนาของสหภาพยุโรปในเวลานี้กำลังเผชิญกับ "วิกฤติอย่างที่เคยไม่มีมาก่อน" รัฐบาลของปธน.โดนัลด์ ทรัมพ์ของสหรัฐ ดึงดันใช้ระบบเอกภาคี ถึงแม้ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหภาพยุโรปจะพยายามทำความเข้าใจกับสหรัฐ ในส่วนตัวเขาเองก็พยายามผูกมิตรกับนายโดนัลด์ ทรัมพ์ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยเปลี่ยนความคิด นายโดนัลด์ ทรัมพ์ ทนไม่ได้ที่ยุโรป "เอารัดเอาเปรียบสหรัฐ" จึงคิดทำสงครามการค้ากับยุโรป แถมยังบีบบังคับให้สมาชิกนาโตที่เป็นประเทศยุโรปชำระค่าธรรมเนียมเต็มร้อย ตลอดจนทวงคืนผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจกับยุโรปทุกเม็ด

ด้านการจัดระเบียบโลกนั้น นายเอมมานูเอล มาครงเห็นว่า ข้อริเริ่ม 1 แถบ 1 เส้นทางที่จีนเสนอ "มีข้อดีในการสร้างเสถียรภาพในบางพื้นที่และมีวิสัยทัศน์ระดับโลก" ฝรั่งเศสจะดำเนินการเจรจา "ที่มีความสร้างสรรค์ ความต้องการ และความเชื่อมั่น" กับจีนตามหลัก "การสร้างความสมดุล การรักษาประโยชน์ของประเทศตน และค่านิยมโลก" นอกจากนี้ เขายังยึดมั่นการสร้างสหภาพยุโรปให้เป็นหนึ่งเดียว อย่างมีมาตรฐาน ให้ยุโรปมียุทธศาสตร์ที่อิสระและเป็นแบบอย่าง คัดค้านแนวโน้มแยกตัวในสหภาพยุโรป เดินหน้าปฏิรูปและช่วยเหลือซึ่งกันและกันในสหภาพยุโรป

(BO/LING/CICI)