นายสี จิ้นผิงกล่าวขณะพบกับนายฟอสติน-อาร์เชนจ์ ทัวอาเดรา ประธานาธิบดีแอฟริกากลางว่า
"ท่านกล่าวปาฐกถาได้ยอดเยี่ยมในที่ประชุมโต๊ะกลมของการประชุมสุดยอดฯ การกล่าวชื่นชมความสัมพันธ์จีน-แอฟริกา สร้างความประทับใจแก่ข้าพเจ้าเป็นอย่างมาก คำแถลงของท่านแสดงถึงความปรารถนาอย่างแรงกล้าในการจับมือกับจีนร่วมดำเนินตามข้อริเริ่ม 1 แถบ 1 เส้นทางและผลการประชุมสุดยอดปักกิ่งให้บรรลุผล ถือเป็นเสียงอันเข้มแข็งในการร่วมสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน ซึ่งข้าพเจ้าขอชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง"
ระหว่างการพบปะ นายฟอสติน-อาร์เชนจ์ ทัวอาเดรากล่าวย้ำอีกครั้งว่า ยินดีร่วมกับจีนให้มากขึ้นในกรอบข้อริเริ่ม 1 แถบ 1 เส้นทางและ "แนวปฏิบัติ 8 ประการ" ตามที่นายสี จิ้นผิงเสนอในการประชุมสุดยอดที่ปักกิ่ง
ด้านยูกันดา ประเทศที่มีดินแดนอยู่ชั้นในของทวีปแอฟริกาได้ประโยชน์จากโครงการต่างๆ ในกรอบ 1 แถบ 1 เส้นทาง ซึ่งเป็นสายพานเชื่อมยูกันดากับโลก นายโยเวรี มูเซเวนี ประธานาธิบดียูกันดากล่าวระหว่างพบกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเมื่อวันที่ 6 กันยายนว่า โครงการในกรอบ 1 แถบ 1 เส้นทางได้ช่วยยกระดับศักยภาพการแข่งขันทางเศรษฐกิจของยูกันดาให้สูงขึ้นอย่างชัดเจน
นายโยเวรี มูเซเวนีระบุว่า "จีนได้สนับสนุนโครงการต่างๆ ในยูกันดาเช่นกัน ตั้งแต่โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำคารูมากำลังการผลิต 6 ล้านเมกกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำอิซิมบา ซึ่งใกล้จะแล้วเสร็จ ตลอดจนโครงการขยายท่าอากาศยานนานาชาติเอนเทบเบ ซึ่งกำลังดำเนินการไปอย่างราบรื่น"
ที่ประชุมสุดยอดความร่วมมือจีน-แอฟริกาที่ปักกิ่งปีนี้ มีสมาชิกใหม่ 3 รายที่ร่วมประชุมเป็นครั้งแรก และกลับสู่ครอบครัวความร่วมมือจีน-แอฟริกา หนึ่งในนั้นคือ แกมเบีย นายสี จิ้นผิงระบุขณะพบกับนายอาดามา บาร์โรว์ ประธานาธิบดีแกมเบียว่า
"การที่ท่านเดินทางมาร่วมประชุมที่จีน ถือเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีแกมเบียเข้าร่วมประชุมความร่วมมือจีน-แอฟริกา นับว่ามีความสำคัญต่อความสัมพันธ์จีน-แกมเบีย ความสัมพันธ์จีน-แอฟริกา และการประชุมฯ เป็นอย่างมาก การประชุมสุดยอดที่ปักกิ่งที่เพิ่งปิดฉากไปอย่างสมบูรณ์ ถือเป็นการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ เป็นผลงานของเราร่วมกัน ความสำคัญของการประชุมครั้งนี้อยู่ที่เราได้บรรลุฉันทามติเกี่ยวกับการร่วมสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีนกับแอฟริกา ถือเป็นการเสริมยุทธศาสตร์หุ้นส่วนความร่วมมือทุกด้านระหว่างจีนกับแอฟริกาให้มีความเข้มแข็งและหลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม"
ด้านนายอาดามา บาร์โรว์ระบุว่า ข้อเท็จจริงพิสูจน์ให้เห็นว่า การที่แกมเบียรักษาสิ่งที่เรียกว่า "ความสัมพันธ์ทางการทูต" กับทางการไต้หวันในช่วงที่ผ่านมา ถือเป็นความผิดพลาดอย่างยิ่ง ต่อแต่นี้ไป แกมเบียจะยึดมั่นในนโยบายจีนเดียวอย่างเด็ดเดี่ยว มุ่งกระชับหุ้นส่วนที่อำนวยประโยชน์แก่กันและได้ประโยชน์ร่วมกันกับจีนให้มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนแกมเบีย
(TIM/LING/CAI)
