ถอดเสียงสัมภาษณ์นางกานดา วัชราภัย ประธานอำนวยการศาลาไทยในงานเวิลด์เอ็กซ์โป 2010 (2)
  2010-09-07 16:49:31  cri

ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2010 เนื่องในโอกาสวันศาลาไทยใกล้ถึง ภาคภาษาไทย สถานีวิทยุซีอาร์ไอได้สัมภาษณ์นางกานดา วัชราภัย ประธานอำนวยการศาลาไทย และรองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รายละเอียดของการสัมภาษณ์มีดังนี้

ถาม ทราบว่าศาลาไทยได้รับความสนใจ มีทั้งพระราชวงศ์และบุคคลสำคัญจากทั่วโลกมาชมค่ะ พอจะยกตัวอย่างให้ทราบได้ไหมว่า มีท่านใดบ้าง และก็ท่านเหล่านั้นได้ชื่นชมศาลาไทยอย่างไรบ้างคะ

ตอบ พระองค์แรกที่เสด็จมาคือสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ท่านเสด็จมาในช่วงวันที่ 19 กรกฎาคมจนถึงวันที่ 22 ท่านเสด็จมาที่ศาลาไทยในวันที่ 19 ท่านก็รับสั่งว่า ทำได้สนุกดี คือมีเรื่องของความเป็นไทย และในขณะเดียวกัน ก็ไม่น่าเบื่อ คือหมายถึงว่าก็มีเรื่องสนุก ๆ ที่ทำให้คนที่เข้ามาเกิดความรู้สึกว่ามีเรื่องที่น่าติดตาม มีเรื่องในประเทศไทยเยอะ ๆ ที่สามารถที่จะไปติดตามดูได้ในประเทศเรา อีกท่านหนึ่งเป็นเจ้าหญิงจากตองกา เป็นประเทศที่เป็นหมู่เกาะ ท่านก็ขอเสด็จมาดู พร้อมกับคณะของท่าน ท่านก็ชมว่า ศาลาไทยทำได้ดีมาก ในสามเอ็กซิบิชั่นนั้น ไม่น่าเบื่อ และก็เห็นความน่ารัก เห็นความสุขของคนไทย อีกท่านหนึ่งที่อยากจะพูดถึงก็คือ ประธานาธิบดีสิงคโปร์ ท่านขอมาดูศาลาไทยโดยเฉพาะ ท่านก็พูดในลักษณะที่บอกว่า ท่านได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมานานแล้ว ก็อยากจะดูด้วยตาว่า ความสนุกในศาลาไทยเป็นอย่างไร ท่านก็บอกว่า ดูแล้วก็มีความสุข กลับไปก็ชมคนที่คิดไอเดียว่า นำแสนอสอดแทรกประเด็นต่าง ๆ ความเป็นไทยภายใต้เรื่องของความสุขความสนุกได้อย่างกลมกลืนค่ะ นอกจากนั้นก็ยังมีประธานาธิบดีของติมอร์-เลสเต และก็รัฐมนตรีจากหลายกระทรวงจากหลายประเทศที่มาเยี่ยมชมศาลาเรา ส่วนใหญ่ก็จะได้รับฟีดแบคเหมือน ๆ กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ห้องนิทรรศการที่สาม บอกว่าทำได้สนุกมาก ทำให้คนที่เข้าไปชมนั้นมีส่วนร่วมด้วยทุก ๆ วินาทีของการอยู่ในห้องนั้นค่ะ

ถาม เท่าที่ทราบศาลาไทยจะชิงเป็นศาลา 10 อันดับแรกในศูนย์เอ็กซ์โป ศาลาไทยใช้วิธีอย่างไรดึงดูดผู้ชมคะ

ตอบ ขณะนี้เราอยู่เป็น 1 ใน 7 ของศาลายอดนิยมในงานเวิลด์ เอ็กซ์โปครั้งนี้ คิดว่าส่วนหนึ่งที่เราเป็นแบบนี้ได้เพราะ หนึ่ง เราสามารถที่จะทำศาลาเสร็จและเปิดในช่วงทดสอบ (soft opening) ว่า ศาลาที่จะเปิดจริงในวันที่ 1 พฤษภาคมนั้น เราพร้อมไหม ระบบต่างๆ ของเรารับผู้ชมได้ไหม จะต้องปรับ หรือเปลี่ยนตรงไหน เพราะว่าในช่วงนั้น ทางผู้จัดงานจะให้ผู้ชมเข้ามาวันหนึ่งประมาณ 5 แสนคน มีประมาณ 7 วัน วันละ 5 แสนทุกวัน ด้วยเหตุที่เข้าใจว่าเป็นการเข้ามาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพราะฉะนั้น ผู้ชมก็จะมาดูตามที่เขาอยากจะมาดู ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราสามารถที่จะประเมินสถานการณ์ของเราได้ว่า ศักยภาพของเรานั้นใช้ได้หรือใช้ไม่ได้ จะต้องรีบแก้ไขตรงไหน พอเรารู้จุดแล้ว เมื่อถึงวันที่ 1 พฤษภาคม เราก็สามารถที่จะเิปิดและรับผู้เข้ามาเยี่ยมชมไำด้โดยไม่มีเงื่อนไขเลย ทีนี้ต้องเรียนว่า ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งใน 30% ของอาคารทั้งหมดในนี้ที่สามารถมีช่วงทดสอบได้ ส่วนอีก 70% เข้าใจว่าอาจจะอยู่ในระหว่างการเตรียม หรือยังสร้างไม่เสร็จ หรือยังทดสอบระบบไม่เสร็จ เพราะฉะนั้น จะถือว่าคนที่เข้าชมได้รู้จักศาลาไทยก่อนศาลาอื่นๆ ไปช่วงหนึ่ง ที่น่าแปลกใจมากก็คือว่า ศาลาของเราได้รับความสนใจทางอินเตอร์เน็ตมาก เขาก็จะออกไปคุยกันในอินเตอร์เน็ต ก็จะเป็นคล้ายๆ แบบว่ามีวงกว้างขึ้นทุกที เมื่อเป็นอย่างนั้น พอเวลาคนมาชม ถ้าเข้าทางประตู 7 ทุกคนก็จะวิ่งมาที่ศาลาไทยก่อนเป็นอันดับแรก นอกจากนั้น คิดว่าสิ่งที่เราได้รับเสียงสะท้อนตอบกลับมาก็คือบอกว่า ศาลาเราในเรื่องของการจัดคิวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เรามี "easy exit" ให้สำหรับคนพิการ คนท้อง เด็ก และผู้สูงอาุยุตามระเบียบของทางเอ็กซ์โป มี "fast lane" ที่ให้เข้าโดยเฉพาะ อีกนิดหนึ่งคือ เรามีอาสาสมัครที่เราเตรียม และให้การอบรมไว้ เนื่องจากศาลาเราเป็นศาลาที่มีคิวค่อนข้างยาว เพราะฉะนั้น น้องเขาจะอยู่ตรงข้างหน้าคุยกับคนในคิว คล้ายๆ กับทำความรู้จัก ทำความคุ้ยเคย สร้างความเป็นมิตร แล้วก็มีการสอนภาษาไทย คำง่ายๆ ให้กับผู้ชมชาวจีนที่อยู่ในคิวด้วย เวลาตรวจสอบเสียงสะท้อนกลับมาจะพบว่า สิ่งเหล่านี้ทำให้ศาลาของเราเป็นศาลาที่มีเจ้าหน้าที่เป็นมิตรกับคนที่เข้าชม นอกจากนี้ คิดว่าส่วนหนึ่งที่เป็นอย่างนี้ได้ก็เพราะเราเอาประเพณีสำคัญๆ บางประเพณีมานำเสนอข้างหน้าด้วย อย่างเช่น มีการจัดวันสงกรานต์ วันลอยกระทง และวันแม่ เรายังมีช่วงแจกผลไม้ในเทศกาลผลไม้ด้วย เพราะประเทศไทยก็มีชื่อเสียงเกี่ยวกับผลไม้

ถาม มีข่าวรายงานว่า ประเทศไทยจะสมัครเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โปในปี 2020 ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรต่อเรื่องนี้

ตอบ เป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะว่ามาอยู่ที่นี่ได้มาดูแลอาคารศาลาไทยทำให้เห็นว่า งานเวิลด์เอ็กซ์โปนั้นเป็นงานใหญ่ที่สามารถสร้างความเข้าใจให้กับนานาชาติได้ โดยเฉพาะิอย่างยิ่งผู้จัดนั้นสามารถที่จะนำสิ่งดีๆ ที่ประเทศต้องการแสดงออกให้กับประชาคมโลกได้รับทราบหลายประการ ดิฉันไปชมหอจีนก็ชื่นชมมากเกี่ยวกับวิธีการจัดนิทรรศการ ทำให้มีความรู้สึกว่า ภาพของประเทศจีนที่ก่อนที่จะมาอยู่ที่นี่กับภาพของประเทศจีนที่มาอยู่ที่นี่แล้วแตกต่างกัน มีความรู้สึกว่า งานเวิลด์เอ็กซ์โปเป็นเวทีสำคัญมาก เพราะฉะนั้น ถ้าหากว่าประเทศไทยสามารถที่จะเอาตัวเข้าไปร่วมแข่งขันที่จะเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โปในปี 2020 ได้ ดิฉันก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ดี และเป็นเรื่องที่น่าสนับสนุน แต่ทั้งนี้ต้องมีการวางแผนระยะยาวที่ดีด้วย ทำกันเป็นขั้นเป็นตอน และมีการควบคุมแผนให้ดี คิดว่าถ้าเกิดเป็นเจ้าภาพขึ้นมาจริงๆ เราจะสามารถทำได้ไม่ขาดบกพร่อง เรามองว่าปี 2010 จีนเป็นเจ้าภาพที่จัดงานให้มีขนาดใหญ่ีที่สุด ไม่มีครั้งไหนที่ใหญ่เท่าครั้งนี้ เพราะว่ามีประเ้ทศที่เข้าร่วมมากถึง 194 ประเทศ มี 5.28 ตารางกิโลเมตรซึ่งใหญ่มาก ครั้งหน้าที่อิตาลีก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง แต่ว่าประเทศจีนก็จัดงานเป็นที่สุดของความใหญ่ ความเยอะ และความกว้าง ดังนั้นถ้า ปี2020 ไทยสามารถที่จะเป็นเจ้าภาพได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีกับประเทศมากๆ

(Jiang/Zhou/CiCi /Chu)

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040