เมื่อเร็วๆนี้ สื่อมวลชนญี่ปุ่นรายงานว่า โรงเรียนประถมและโรงเรียนมัธยมของญี่ปุ่นประมาณ 20% ทำเนื้อปลาวาฬเป็นอาหารเที่ยงของนักเรียน ข่าวนี้ำทำให้หลายคนเกิดความอยากรู้อยากเห็นว่า เนื้อปลาวาฬมีรสชาติอร่อยและมีคุณค่าอาหารมากขนาดไหน จึงทำให้ญี่ปุ่นฝ่ากระแสคำวิพากษ์วิจารณ์จากประชาคมโลก ส่งเรือล่าปลาวาฬตามมหาสมุทรอย่างไม่หยุดยั้ง
ในประเทศจีน การบริโภคเนื้อปลาวาฬเป็นพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย แต่ขณะเดียวกัน หูฉลาม อาหารอีกชนิดหนึ่งที่ทำจากปลาฉลาม ซึ่งก็เป็นราชาแห่งทะเลเช่นกัน กลับได้รับความนิยมอย่างมาก คุณค่าของหูฉลามมีมากน้อยแค่ไหน
มาดูเนื้อปลาวาฬก่อน เนื้อปลาวาฬ 100 กรัม ประกอบด้วยน้ำ 75% โปรตีน 21% ที่เหลืออีก 4% เป็นไขมัน carbohydrate และสารบางอย่าง เมื่อเทียบกับเนื้อหมูกับเนื้อวัวแล้ว เนื้อปลาวาฬมีไขมันต่ำ คอเลสเตอรอลต่ำและโปรตีนสูงก็จริง แต่ใช่ว่ามีแต่เนื้อปลาวาฬมีข้อดีเหล่านี้ เนื้อปลาทั่วไปกระทั่งเนื้ออกไก่ ล้วนมีความเหนือกว่าในด้านไขมันต่ำโปรตีนสูง โดยเนื้อปลามีไขมันไม่ถึง 1% เนื้ออกไข่มีโปรตีนมากถึง 87%
นักโภชนาการผู้หนึ่งเคยบรรยายรสชาติของเนื้อปลาวาฬว่า ไม่เหมือนเนื้อปลา กลับคล้ายเนื้อสัตว์บก และเนื้อค่อนข้างหยาบ
ประเทศญี่ปุ่นสร้างอยู่บนเกาะ เมื่อ 400 กว่าปีก่อนก็เริ่มล่าปลาวาฬเพื่อทำเป็นอาหารแล้ว เนื่องจากในยุคขาดแคลนสินค้า โดยเฉพาะเนื้อวัวเนื้อแพะต้องอาศัยการนำเข้า เนื้อปลาวาฬเป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญของชาวญี่ปุ่น ทุกวันนี้ ถึงแม้การบริโภคเนื้อสัตว์ไม่ใช่เรื่องยากลำบากสำหรับชาวญี่ปุ่นอีกแล้ว และที่น่ากังวลอย่างยิ่งคือปลาวาฬหลายชนิดกำลังเผชิญกับภาวะใกล้สูญพันธุ์ แต่ด้วยเหตุผลในด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจและการเมือง ญี่ปุ่นไม่เคยหยุดล่าปลาวาฬเพื่อทำเป็นอาหาร
ต่อไปมาดูหูฉลามกันบ้าง จีนเป็นประเทศนำเข้าและบริโภคหูฉลามที่ใหญ่ที่สุดในโลก สมัยก่อนหูฉลามเป็นอาหารวัง ทุกวันนี้กลายเป็นอาหารสำหรับเลี้ยงรับรองแขกบ้านแขกเมือง และเป็นอาหารบำรุงสุขภาพที่ชาวจีนรู้จักกันมานาน จึงกล่าวได้ว่า หูฉลามมีบทบาทสำคัญมากในวัฒนธรรมอาหารจีนที่มีประวัติยาวนาน หากกล่าวในแง่วิทยาศาสตร์ จริงๆ แล้วหูฉลามเป็นกระดูกอ่อนในครีบปลาฉลาม หรือเรียกว่า เอ็นครีบปลา มีส่วนประกอบเป็นน้ำ 54% โปรตีนหยาบ 45% โดยเป็น collagen กว่า 90% ที่เหลืออีกไม่ถึง 1% เป็นไขมันและสารอื่นๆ หูฉลามไม่มีคุณค่าทางอาหารสูงอย่างที่ผู้คนคิด แถมยังขาดกรดอมิโน ซึ่งเป็นสารจำเป็นสำหรับร่างกายมนุษย์ ส่วนสาร collagen ที่มีมากถึง 90% นั้น แม้ผู้รักความสวยความงามพากันเืชื่อว่าสามารถบำรุงผิวพรรณให้เต่งตึงเปล่งปลั่งเหมือนหญิงสาวอายุ 18 ตลอดกาลก็ตาม แต่อาหารที่อุดมไปด้วย collagen นั้นมีมากมายหลายอย่าง หาใช่มีแต่หูฉลามเพียงอย่างเดียวไม่ ความโอชาของหูฉลามส่วนใหญ่มาจากเครื่องปรุงและวิธีปรุงรสที่พิถีพิถัน กล่าวได้ว่า อาหารที่ทำด้วยหูฉลามนั้น ความโอชาเหนือคุณค่า
ไม่ว่าเนื้อปลาวาฬหรือหูฉลาม สาเหตุที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคคงไม่ใช่เพราะคุณค่าทางโภชนาการ หากเป็นเพราะสาเหตุทางวัฒนธรรมและประเพณีที่สืบทอดกันมานาน
การล่าปลาวาฬและปลาฉลามเป็นอาหารมนุษย์ทำให้จำนวนปลาวาฬและปลาฉลามนับวันลดน้อยลงอย่างฮวบฮาบจนต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่ใกล้สูญพันธุ์ ปัจจุบัน ทั่วโลกมีปลาวาฬ blue whale เพียงประมาณ 10,000 ตัว แต่ละปีมีปลาฉลามประมาณ 100 ล้านตัวถูกล่า ในจำนวนนี้มีหลายสิบล้านตัวถูกฆ่าเพื่อตัดครีบทำเป็นหูฉลาม
สิ่งที่ควรรู้อีกอย่างคือ เนื่องจากสิ่งแวดล้อมทางทะเลนับวันเลวร้ายลง มลพิษในน้ำทะเลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปลาวาฬและปลาฉลามอยู่ในอันดับต้นๆ ของห่วงโซ่อาหารทะเล จึงมีสารพิษชนิดต่างๆ เช่น ปรอทและ PCB สะสมอยู่ในเนื้อมากมาย ไม่ว่าจะใช้วิธีล้างหรือปรุงยังไงก็ตาม ล้วนยากที่จะทำลายให้หมดสิ้น เคยมีรายงานข่่าวว่า ชาวประืิมงในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นทานเนื้อปลาวาฬบ่อย สารปรอทที่ตกค้างในร่างกายมากกว่าคนทั่วไปเป็น 10 เท่า
เพื่อสิ่งแวดล้อมของทะเลและมหาสมุทร เพื่อสุขภาพของมนุษย์เอง ควรเลิกบริโภคเนื้อปลาวาฬและหูฉลามด้วยเหตุผลเพื่อสนองความต้องการทางจิตมากกว่าคุณค่าทางโภชนาการ
ราชาแห่งทะเล ไม่ใช่้อาหารโอชา