เลี้ยงลูกแบบฝรั่งหรือแบบเอเซียดี(1)
  2011-03-21 15:04:44  cri
เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า วิธีการเลี้ยงลูกแบบคนจีน เคร่งครัด มีระเบียบวินัย เข้มงวด เอาจริงเอาจัง ทำให้เด็กจีนมักได้คะแนนสอบดีเป็นที่น่าพอใจของผู้ปกครอง ขณะนี้การเลี้ยงดูลูกแบบคนจีนดังกล่าวนั้นกลายเป็นประเด็นใหญ่โตกว้างขวางในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีบุคคลหนึ่งซึ่งเป็นคนเชื้อสายจีน เกิดในฟิลิปินส์ ไปอยู่ในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่เด็ก ชื่อ Amy Chua ( 蔡美儿) เขียนหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่งชื่อว่า Battle Hymn of the Tiger Mother หรือ "คัมภีร์ออกศึกของแม่เสือ" ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงลูกแบบคนจีน จนเป็นประเด็นฮือฮาในประเทศสหรัฐอเมริกา และกำลังเป็นประเด็นที่ดังมากจนเป็นที่ถกเถียงกันในสังคมประเทศตะวันตก จนพาดพิงไปถึงเรื่องใครจะเหนือกว่ากันระหว่างวิธีการเลี้ยงลูกแบบจีนและแบบฝรั่ง กระทั่งทำให้เห็นกระแสความวิตกกังวลของชาวอเมริกันที่กลัวว่าจีนจะแซงหน้า

Amy Chua เป็นศาสตรจารย์สอนวิชากฏหมายที่มหาวิทยาลัยเยล ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังของสหรัฐฯ Amy มีสามีเป็นชาวอเมริกัน มีบุตรสาวด้วยกันสองคน เธอเลี้ยงดูลูกสาวอย่างเคี่ยวเข็ญ เข้มงวดกวดขันสุดขีด จนถูกวิจารณ์ว่าโหดเหี้ยมไร้ปราณี หนังสือเรื่อง "Battle Hymn of the Tiger Mother" ที่เธอแต่งได้รับการวิจารณ์โจมตีอย่างหนักจากสื่อมวลชนและชาวอเมริกัน หลังจากนิตยสาร เดอะ วอลล์สตรีต เจอร์นัล ตัดทอนข้อความบางส่วนไปเขียน แต่ให้หัวข้อว่า "Why Chinese Mother Are Superior" (ทำไมแม่ชาวจีนถึงเหนือกว่า)

Amy เล่าในหนังสือว่า เธอตั้งข้อห้ามและข้อบังคับต่างๆ ให้ลูกสาวทั้งสองเช่น

- ห้ามไปนอนค้างที่อื่น

- ห้ามดูทีวี เล่นเกมคอมพิวเตอร์

- ห้ามเล่นกับเพื่อน

- ห้ามร่วมกิจกรรมโรงเรียน

- ห้ามบ่นหรือไม่มีสัมมาคารวะ

- ต้องได้เกรดไม่ต่ำกว่า A เท่านั้น

- ห้ามเลือกกิจกรรมนอกหลักสูตรด้วยตัวเอง

- ต้องได้ที่หนึ่งในชั้น ยกเว้นวิชาพละและการแสดง

- ไม่ให้หยุดซ้อมไวโอลินหรือเปียโน

- ห้ามใช้ของแพง หรือของมียี่ห้อ แบรนด์เนมต่างๆ ฯลฯ

บางครั้ง Amy ถึงกับบังคับให้ลูกซ้อมดนตรีหลายชั่วโมงจนกว่าจะเล่นบทเพลงที่ต้องการได้ เมื่อลูกเริ่มประท้วงฉีกโน๊ตทิ้ง เธอก็เอามาแปะติดกันใหม่แล้วห่อไว้ไม่ให้ฉีกได้อีก และขู่ว่าจะเอาตุ๊กตาตัวโปรดของลูกไปบริจาค ถ้ายังไม่เล่นให้ได้ ขู่ว่าจะไม่ให้ทานอาหารกลางวัน อาหารเย็น ไม่จัดคริสต์มาสปาร์ตี้ ไม่ซื้อของขวัญให้ ไม่จัดงานวันเกิดให้ ถ้าหากยังเล่นผิดอีก ก็บังคับให้ฝึกโดยไม่มีหยุดพัก หรือแม้กระทั่งดื่มน้ำ เข้าห้องน้ำ และไม่ได้ทานอาหารเย็น บรรยากาศเป็นแบบสงคราม จนในที่สุดลูกของเธอก็สามารถเล่นเพลงที่ตัวเองไม่คิดว่าจะเล่นได้ และขึ้นไปแสดงบนเวทีด้วยความภาคภูมิใจและเป็นปลื้ม

Amy ยังเคยบังคับให้ลูกทำแบบฝึกหัดคิดเลขวันละ 2000 ข้อ โดยถือนาฬิกาจับเวลาอยู่ข้างๆ ทำอย่างนี้ติดต่อกันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพียงเพราะว่าก่อนหน้านี้ลูกสอบคิดเลขได้ที่สองในชั้น ทำให้ Amy รู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่ง หลังจากฝึกอย่างโหดๆ แบบนี้เป็นเวลา 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นลูกไม่เคยพลาดตำแหน่งที่หนึ่งในการสอบคิดเลขทุกครั้งต่อมา นอกจากนี้ หากลูกทำไม่ดีตามที่ Amy คาดหวังไว้ เธอก็จะด่าลูกว่าเป็น"เศษขยะ" และก็เคยโยนบัตรอวยพรวันเกิดที่ลูกสาวทำให้ให้ไปทำใหม่ โดยหาว่าทำไม่สวย ให้ทำใหม่ที่สวยกว่า

วิธีเลี้ยงลูกแบบแม่เสือที่ Amy เขียนในหนังสือเรียกความหมั่นใส้คัดค้านและโกรธแค้นมากมายจากชาวอเมริกันที่ชินกับวิธีการเลี้ยงลูกแบบให้คำชมเชยตลอดและปล่อยให้เด็กเติบโตตามธรรมชาติ บางคนก็ว่าเธอเป็นปีศาจ

จากการสำรวจคุณแม่ชาวอเมริกัน กับแม่ชาวเอเซียอพยพ พบว่า 70% ของแม่ชาวอเมริกันบอกว่าการเรียนหนักเกินไปไม่ดีสำหรับเด็ก พ่อแม่ต้องพยายามเสริมสร้างความรู้สึกว่า การเรียนเป็นเรื่องสนุกให้ลูกๆ ขณะที่แม่ชาวเอเซียอพยพคิดว่า การศึกษาเป็นตัวบ่งชี้ความสำเร็จของการเลี้ยงดู และ Amy บอกว่า ความสนุกกับสิ่งไดๆ จะเกิดขึ้นได้ก็เมื่อสามารถกระทำสิ่งนั้นได้อย่างเชี่ยวชาญแล้วเท่านั้น

Amy เห็นว่า ลักษณะเด่นของคุณแม่ชาวจีนคือ ไม่เหมือนคุณแม่ชาวอเมริกันที่คิดอยู่เสมอว่าเด็กต้องได้รับคำชมตลอด โดยคิดว่าเด็กมีความเข้มแข็งแฝงอยู่ในตัว สามารถทนต่อความกดดันและบีบบังคับจากพ่อแม่ซึ่งมักจะมาในรูปแบบการต่อว่า บันดาลโทสะหรือขู่เข็ญ Amy ยังได้สรุปข้อสำคัญ 3 ข้อที่ทำให้พ่อแม่จีนประสบความสำเร็จในการเลี้ยงลูก ได้แก่ ไม่ใส่ใจความรู้สึกของลูก ยึดแนวคิดที่ว่าลูกต้องกตัญญูต่อพ่อแม่ และเห็นว่าเด็กอายุน้อยไม่รู้เรื่องอะไร ต้องมีพ่อแม่คอยให้คำชี้แนะตลอด

มีผู้อ่านชาวอเมริกันแสดงความเห็นว่า การกระทำของ Amy Chua เป็นการทำร้ายเด็ก การที่เด็กเอเชียขาดความคิดสร้างสรรค์ก็เพราะเติบโตกับวิธีการเลี้ยงดูแบบนี้ แต่ก็มีผู้ปกครองชาวอเมริกันจำนวนไม่น้อยเห็นว่า ควรเรียนรู้วิธีการเลี้ยงลูกแบบเข้มงวดบ้าง พร้อมยอมรับว่าตัวเองก็เป็นพ่อเสือแม่เสือเหมือนกัน ขณะเดียวกัน มีผู้ปกครองชาวเอเชียอพยพพากันกล่าวว่า หนังสือเล่มนี้ิทำให้สังคมตะวันตกมีความเข้าใจผิดต่อนักเรียนและครอบครัวของนักเรียนชาวเอเชียมากขึ้น

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040