เรียนจีนให้สนุกแบบสุขสุขในรั้ว "เหรินต้า"
  2011-07-08 14:53:56  cri
เรียนจีนให้สนุกแบบสุขสุขในรั้ว "เหรินต้า"

โดย รพีพรรณ วงษ์กรวรเวช

ตราสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย "เหรินต้า 人大"

Renmin University of China หรือในชื่อเรียกฉบับย่อว่า "เหรินต้า 人大" เป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยชั้นนำที่มีความขลังและดังได้จิตคนจีน เพราะก่อตั้งมาแต่เมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ.1937 ในชื่อแรกเริ่มเดิมทีว่า "สานเป่ยกงเสว์ 陕北公学" โดยคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนในยุคนั้นมีจุดมุ่งหมายใช้เป็นสถาบันให้การฝึกหัดอบรมแก่เหล่าแกนนำและประชาชนเพื่อการปฏิวัติและป้องกันรักษาประเทศ ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์สะพานหลูโกวเฉียว 卢沟桥 ( Marco Polo Bridge Incident) เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมปีเดียวกัน ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือเป็นจุดแตกหักสำคัญอันนำไปสู่งสงครามต่อต้านญี่ปุ่นของประชาชาติจีน หลังจากนั้นได้ผ่านการเปลี่ยนชื่อเป็นมหาวิทยาลัย "หัวเป่ยเหลียนเหอต้าเสว์华北联合大学" "เป่ยฟางต้าเสว์北方大学" "หัวเป่ยต้าเสว์华北大学" และท้ายที่สุดในชื่อ "จงกั๋วเหรินหมินต้าเสว์中国人民大学 " หรือมหาวิทยาลัยประชาชนจีน ณ กรุงปักกิ่ง ในค.ศ. 1950

ตราสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยเป็นภาพตัวอักษรจีนคำว่า "คน 人" จำนวนสามตัวอักษรเรียงแถวต่อกัน โดยมีนัยถึงมหาวิทยาลัยแห่งประชาชน(人民) บนพื้นฐานจิตวิญญาณแห่งมนุษย์(人本) และคำนึงถึงความเป็นมนุษย์ (人文)เป็นสำคัญ

นักศึกษาไทยใน "เหรินต้า" ปักกิ่ง

ทั้งนี้ อาจเนื่องเพราะชื่อของ "เหรินต้า" ยังไม่ติดหูได้ใจคนไทยเท่าที่ควร ทำให้ที่นี่มีนักเรียนไทยรวมแล้วไม่ถึงยี่สิบคน นับเป็นชนกลุ่มน้อยนิดในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ซึ่งอาจถือเป็นข้อดีสำหรับนักเรียนไทยที่ต้องการมาเรียนภาษาจีนในสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมให้ต้องใช้ต้องพูด ช่วยให้เรียนรู้และจดจำภาษาจีนได้เร็วและง่ายขึ้น หลักสูตรเรียนภาษาที่เหรินต้านั้น ค่าเล่าเรียนจะตกอยู่ที่ราว 21,500 หยวนต่อปี ห้องพักมีทั้งแบบห้องเดี่ยวห้องคู่ โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ระหว่าง 40-100 หยวนต่อวันต่อคน ซึ่งในเดือนตุลาคมของแต่ละปีทางมหาวิทยาลัยจะมีการจัดเทศกาลวัฒนธรรมนานาชาติ หรือกั๋วจี้เหวินฮว่าเจี๋ย 国际文化节 โดยบรรดานักเรียนต่างชาติจะทำการจัดนิทรรศการออกบูธของประเทศตนรวมถึงจัดการแสดงบนเวที เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมสานสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนจีนและนักเรียนต่างชาติด้วยกันเอง และด้วยความที่จำนวนคนไทยในมหาวิทยาลัยไม่มาก ทำให้รู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ซึ่งน้องๆ นักเรียนไทยในเหรินต้าในปัจจุบันนี้มีตั้งแต่ระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอก โดยทางมหาวิทยาลัยเองก็ได้มีการให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาต่างชาติที่มีผลการเรียนดี หรือมีกิจกรรมเด่นเป็นประจำทุกปี อีกทั้งเปิดโอกาสให้ยื่นขอทุนรัฐบาลจีนเพื่อศึกษาต่อในขั้นปริญญาโทและปริญญาเอกผ่านทางมหาวิทยาลัยได้อีกด้วย รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับทุน ขั้นตอนการสมัครและอื่นๆ ดูได้จากเวบไซต์ http://iso.ruc.edu.cn/ โทรศัพท์: 86-10-6251-2698 โทรสาร: 86-10-6251-5343

เมื่อลองย้อนรำลึกนึกถึงก้าวแรกสู่รั้วเหรินต้าในปลายเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2008 ความทรงจำออกจะลางเลือนไปไม่น้อย เพราะการเรียนในช่วงปีแรกนั้นมีแต่ความมึนและมึน ด้วยพื้นความรู้ที่ไม่แน่นพอ ประกอบกับการฟังที่ยังไม่ถึงขั้นสูง ทำให้ดิฉันจับใจความเนื้อหาจากอาจารย์แต่ละท่านได้ไม่ชัดเจนดี อาศัยว่ายังพออ่านออกเขียนได้บ้าง ทำให้การไปค้นคว้าเพิ่มเติมมาเขียนรายงานส่งนั้นได้รับความกรุณาจากอาจารย์ผู้สอน ช่วยให้เอาตัวรอดและสอบผ่านมาได้ด้วยดี แม้บรรยากาศภายในห้องเรียนจะจริงจังแต่นอกห้องเรียนก็มีเรื่องของกิจกรรมชมรมให้สดชื่นตื่นใจไม่น้อย ทั้งชมรมชงชา ชมรมภาษา ชมรมดนตรี ชมรมดาราศาสตร์ และอื่นๆ อีกมาก มีให้เลือกเข้าร่วมได้ตามความสมัครใจ และหนึ่งในกิจกรรมที่เป็นความแปลกใหม่สำหรับชีวิตนักศึกษาปีแรกนั้น คือ "เทศกาลวันคนโสด光棍节" ที่ตรงกับวันที่11 พฤศจิกายน ที่ประกอบด้วยเลขหนึ่งถึงสี่ตัว(วันที่สิบเอ็ดเดือนสิบเอ็ด)

(บรรยากาศการแจกบัตรเข้าร่วมงานเต้นรำสังสรรค์วันคนโสดฟรี บริเวณด้านหน้าอาคารเรียนตึกสอง

ซึ่งได้รับความสนใจจากนักศึกษาอย่างดี)

กิจกรรมนี้จัดขึ้นที่ห้องโถงอาคารกิจกรรมนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยเหรินต้า งานเริ่มตอนหนึ่งทุ่มตรง นักศึกษาที่มีบัตรจะได้รับแจกของที่ระลึกและมีโอกาสร่วมลุ้นจับแจกรางวัล แต่คนที่ไม่มีบัตรก็สามารถเข้าร่วมได้ โดยในงานจะมีการสอนเต้นรำที่แม้จะเป็นเพียงการสอนเต้นรำขั้นพื้นฐาน แต่ก็ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นและโอกาสอันดีสำหรับการเปิดรับมิตรภาพใหม่ๆ ที่จะช่วยแต้มสีสันให้กับชีวิตนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยได้อีกทางหนึ่ง

(ภาพนักศึกษาชายหญิงที่ยืนแยกกันคนละฝั่ง ต่างตั้งใจฟังคำอธิบายและจับตาดูลีลาการสอนการขยับเท้า

ให้เข้าจังหวะจากอาจารย์ผู้สอน)

แม้หน้าหนาวปลายปี 2008 จะผ่านไปด้วยความหนาวยะเยือกที่มีหิมะโปรยให้เห็นบ้างในปลายหนาว แต่เพราะความล่าช้าและหิมะที่บางตาทำให้การเห็นหิมะแรกในชีวิตนั้นไม่ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับดิฉันเท่ากับการได้เห็นหิมะหน้าหนาวปีสองในวันแรกของเดือนพฤศจิกายน ปี 2009 เพราะเป็นหิมะที่มาเร็วและหนา เพียงแค่ข้ามคืนภาพบรรยากาศรอบนอกก็ขาวโพลนชวนให้ออกมาผจญกับความหนาว เพื่อกดปุ่มชัตเตอร์เก็บภาพบรรยากาศความประทับใจนี้ไว้ให้ช่วยเรียกฟื้นความตื่นเต้นแรกนั้นคืนกลับมาได้ทุกครั้งที่เห็น

(ภาพความงามแห่งสีขาวบริสุทธิ์ของหิมะที่ยังคงโปรยโรยมาไม่หยุดด้านนอกหน้าต่างห้องพัก)

 

(ต้นไผ่ด้านหน้าหอพักนักศึกษาต่างชาติ ที่โน้มพับตัวลงจรดพื้นเพราะความหนาหนักของหิมะที่ตกทับถม)

จากฤดูกาลแห่งความหนาวเหน็บขยับสู่ความอบอุ่นแห่งฤดูใบไม้ผลิ ที่ค่อยๆ คืบคลานมาพร้อมกับเทศกาลชุนเจี๋ยหรือตรุษจีนที่นักศึกษาต่างเมืองและคนทำงานต่างถิ่นพากันกลับไปเยี่ยมญาติเยี่ยมบ้าน พาให้บรรยากาศโดยรอบทั้งในและนอกรั้วเหรินต้าดูเหงาหงอยวังเวงไปถนัดตา แต่งานวัดช่วงตรุษจีนที่ปักกิ่งกลับคึกคักไม่แพ้ที่อื่น ภายในงานมีการออกร้านขายของขายอาหารและเกมให้ร่วมสนุกมากมาย การเรียนรู้ในต่างแดนเป็นอะไรที่สนุก ยิ่งได้ผนวกกับการตั้งเป้าหมายไว้ให้ดีพร้อมทั้งตั้งสติไม่หลงเตลิดเพลิดเพลินเกินงาม ความสุขสนุกนั้นก็จะสานต่อไปยังอนาคตได้อย่างไม่สิ้นสุดแน่นอน

กิจกรรมทัศนศึกษานอกสถานที่ช่วยให้อาการมึนงงจากการเรียนในห้องเบางบางลงได้ไม่น้อย

(V/Nan/LING)

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ตอบคำถามออนไลน์
ทบทวนรายการน่าสนใจ
ภาพยอดฮิต
เว็บไซต์ึเพื่อนซีอาร์ไอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Play Stop
© China Radio International.CRI. All Rights Reserved.
16A Shijingshan Road, Beijing, China. 100040