2018-12-13 17:06CRI
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา รัฐบาลจีนออกสมุดปกขาวว่าด้วย “ความก้าวหน้าด้านสิทธิมนุษยชนจีนในโอกาสครบรอบ 40 ปีการปฏิรูปและเปิดประเทศ” โดยใช้ตัวเลขและเรื่องจริงที่อุดมสมบูรณ์บรรยายสรุปผลสำเร็จของจีนในการพัฒนาด้านสิทธิมนุษยชนตลอดช่วง 40 ปีที่ผ่านมา
สมุดปกขาวฉบับนี้ระบุว่า ในช่วง 40 ปีที่จีนดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศมาโดยตลอดนี้ จีนก่อรูปแนวความคิดใหม่ในการพัฒนาสิทธิมนุษยชนที่ถือประชาชนเป็นจุดศูนย์กลาง จัดการให้สิทธิการดำรงชีวิตและสิทธิการพัฒนาเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และใช้วิธีการพัฒนาระบบกฎหมายว่าด้วยสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาสิทธิมนุษยชนในด้านต่างๆให้ประสานกลมกลืนกัน
ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา จีนให้ความเคารพ ปกป้องและส่งเสริมเรื่องสิทธิมนุษยชน ไม่เพียงแต่จัดทฤษฎีและแนวคิดด้านสิทธิมนุษยชนเข้าไว้ในรัฐธรรมนูญและยุทธศาสตร์พัฒนาบ้านเมืองเท่านั้น หากยังจัดให้การพัฒนาด้านสิทธิมนุษยชนเป็นหลักการสำคัญในการบริหารประเทศชาติและทางการเมืองด้วย
ยกตัวอย่างเช่นการขจัดความยากจน ซึ่งเป็นเป้าหมายอันดับแรกของวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติในปี 2030 และก็เป็นหนทางสำคัญในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา จีนได้ประสบความสำเร็จในการลดจำนวนประชากรยากจนถึง 850 ล้านคน สร้างคุณูปการเป็นสัดส่วนถึง 70% ของภารกิจการขจัดความยากจนทั่วโลก ความสำเร็จในด้านการขจัดความยากจนไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ที่เห็นได้ชัดในการพัฒนาสิทธิมนุษยชนของจีนเท่านั้น หากยังเป็นส่วนเกื้อกูลสำคัญของจีนที่มีต่อความก้าวหน้าของภารกิจสิทธิมนุษยชนของโลกอีกด้วย
สมุดปกขาวว่าด้วยสิทธิมนุษยชนฉบับนี้ ได้บรรยายสรุปอย่างละเอียดเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของพลเมืองจีน สิทธิส่วนบุคคล สิทธิในทรัพย์สิน สิทธิการทำงาน สิทธิทางประกันสังคม สิทธิการได้รับการศึกษา สิทธิทางวัฒนธรรม สิทธิในการเลือกตั้ง สิทธิการเรียนรู้ สิทธิการมีส่วนร่วม สิทธิการกำกับดูแล และเสรีภาพในการนับถือศาสนา เป็นต้น ขณะเดียวกัน จีนยังได้ปรับปรุงสิทธิของคนกลุ่มพิเศษซึ่งรวมถึงชนเผ่าน้อย สตรี เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ให้ดีขึ้นอย่างรูปธรรมด้วย
จากปี 1950-2016 จีนให้เงินทุนช่วยเหลือแก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวมแล้วเป็นจำนวนถึง 4 แสนล้านหยวน ดำเนินโครงการช่วยเหลือต่างประเทศกว่า 5,000 โครงการ ในช่วงปี 2013-2017 โครงการต่างๆภายใต้กรอบข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางได้อำนวยโอกาสการมีงานทำให้แก่ประเทศที่เกี่ยวข้องรวม 200,000 ตำแหน่งงาน ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมา จีนให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศรวมแล้วกว่า 300 ครั้ง จนถึงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จีนได้จัดส่งทหารผดุงสันติภาพจำนวน 37,000 นาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจผดุงสันติภาพอีก 2,700 นาย นอกจากนี้ จีนยังได้เข้าร่วมปฏิบัติการผดุงสันติภาพของสหประชาชาติประมาณ 30 ครั้ง กล่าวได้ว่าจีนเป็นประเทศที่จัดส่งเจ้าหน้าที่ผดุงสันติภาพเข้าร่วมเป็นจำนวนมากที่สุดในบรรดาประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ข้อเท็จจริงดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า จีนยืนหยัดแนวคิดร่วมปรึกษาหารือกัน ร่วมสร้างสรรค์ และร่วมแบ่งปัน ในการผลักดันภารกิจด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศต่างๆ เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน
ในอนาคต จีนจะดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ประชาชนจีนมีศักดิ์ศรี เสรีภาพ และความสุข อีกทั้งสร้างคุณูปการใหม่ต่อการพัฒนาภารกิจสิทธิมนุษยชนของโลกด้วย
(Yim/Zhou)