2019-08-21 16:33CRI
ห้า การว่ายน้ำ อายุของเด็กที่ดีที่สุดสำหรับเริ่มเรียนว่ายน้ำคือ ตั้งแต่อายุ 4ขวบ
สมาคมกุมารแพทย์ของสหรัฐอเมริกาประกาศรายงานว่า เด็กทารกที่ภายในอายุ 1 ขวบไม่เสนอเรียนการว่ายน้ำไม่ว่ารูปแบบใด หากอยากจะให้เด็กทารกว่ายน้ำ ผู้ปกครองก็ต้องลงน้ำไปกับเด็กด้วยกัน แล้วให้เด็กทารกเล่นน้ำอย่างปลอดภัย
สิ่งสำคัญคือ หากเด็กต่ำกว่าอายุ 4 ขวบลงเล่นน้ำ จำเป็นต้องมีผู้ใหญ่ดูแลใกล้ชิดเป็นพิเศษ ส่วนเด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไป แม้จะสามารถเริ่มเรียนว่ายน้ำได้ แต่เนื่องจากยังเคลื่อนไหวร่างกายไม่ดีพอ ดังนั้น จึงคืบหน้าค่อนข้างช้า แต่หลังจากเด็กอายุ 5 ขวบขึ้นไป พัฒนาการทางร่างกายค่อนข้างดีแล้ว จึงสามารถเริ่มเรียนเทคนิคการว่ายน้ำได้
หก การเขียนพู่กันจีน อายุของเด็กที่ดีที่สุดสำหรับเริ่มเรียนคือ ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ
จีนมีสำนวนว่า “ตัวหนังสือเหมือนใบหน้าที่สองของเรา” ดังนั้น ถ้าเขียนพู่กันจีนได้สวยงาม ย่อมเป็นการเพิ่มคะแนนให้กับตน แต่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ไม่ควรให้เด็กเรียนเขียนพู่กันตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งไม่เพียงแต่ไม่ส่งเสริมความสามารถด้านการเรียนรู้ของเด็ก หากยังจะทำลายความกระตือรือร้นของเด็กด้วย ดังนั้น โดยทั่วไปเห็นว่า แรงข้อมือของเด็กอายุ 6 ขวบที่สามารถควบคุมจับดินสอปากกาเขียนได้ดีแล้ว จึงเป็นวัยที่ดีที่สุดที่ควรเริ่มเรียนเขียนพู่กัน
เจ็ด หมากล้อมกับหมากรุก อายุของเด็กที่เริ่มต้นสำหรับเริ่มเรียนหมากล้อมกับหมากรุก คือ ตั้งแต่อายุ 3-4 ขวบ เพียงแค่เด็กรู้จักแยกความต่างระหว่างหมากล้อมสีดำและสีขาวได้ และถ้าเข้าใจความหมายของตัวอักษรบนหมากรุกก็สามารถเรียนได้ แต่หมากล้อมกับหมากรุกยังมีความยากด้านเทคนิคที่ต้องเรียนรู้ฝึกฝน ถ้าอยากจะเล่นเก่งต้องเริ่มต้นเรียนตั้งแต่ระดับประถมชั้นปีที่ 3
แปด ละครเวทีกับกล่าวสุนทรพจน์ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุที่ดีที่สุดของเด็กในการเริ่มเรียนละครเวทีกับกล่าวสุนทรพจน์ เพราะแม้จะไม่มีสคริปต์ใดๆ เด็กทุกคนที่เมื่อยืนอยู่บนเวที ก็จะสามารถสร้างความสุขและเรียกเสียงหัวเราะได้จากทุกคนแล้ว
ต่อไปเรามีคำแนะนำเกี่ยวกับการสมัครเรียนพิเศษให้ลูกหลานนะคะคือ ควรให้เด็กได้ทดลองเรียนทุกอย่าง เหมือนกับเวลาเรายืนอยู่หน้าโต๊ะที่มีขนมเค้กที่ดูน่าอร่อยมากมาย แต่ว่าคุณจะรู้ว่าอันไหนเป็นอันที่คุณชอบมากที่สุดได้อย่างไร? คำตอบก็คือ ต้องทดลอง
เหตุผลเดียวกันนี้ ในขั้นต้นผู้ปกครองอาจจะดูได้ยากว่าลูกหลานของคุณชอบหรือว่ามีความสนใจจริงในเรื่องไหน และยากที่จะค้นพบพรสวรรค์ของเด็กว่าเป็นอย่างไรได้ในการร้องเพลง เต้นรำ วาดภาพ เรียนเปียโนต่างๆในชั่วคราว ขอเพียงเด็กไม่ต่อต้านที่จะไปเรียน ก็สามารถสมัครให้เขาทดลองเรียนได้
แต่ว่าสิ่งต้องสังเกตคือ อย่าสมัครชั้นเรียนพิเศษให้มากเกินไป อาจเลือกการเรียนพิเศษที่ต้องการความละเอียดอ่อนอย่างหนึ่ง และเลือกที่เน้นการออกกำลังเล่นกีฬาเป็นหลักอีกอย่างก็พอ
นอกจากนี้ ควรให้เด็กยืนหยัดที่จะเรียนหรือทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งต่อเนื่อง
คือความสนใจของเด็กมีขึ้นๆลงๆ อาจจะวันนี้มีความสนใจร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่พรุ่งนี้ก็ไม่อยากจะเรียน แต่หลังจากผ่านระยะเวลาที่เบื่อหน่ายไปแล้ว เด็กก็จะฟื้นความตั้งใจกลับมา
ดังนั้น หลังจากสมัครชั้นเรียนพิเศษหนึ่งให้เด็กแล้ว เสนอว่าให้ผู้ปกครองให้กำลังใจกับเด็กมากๆ ให้เด็กยืนหยัดเรียนมากกว่าหนึ่งปีขึ้นไป เวลาที่เป็น 1 ปีนี้ เชื่อมั่นว่าผู้ปกครองก็จะรู้ว่าเด็กชอบหรือว่าเหมาะกับชั้นเรียนพิเศษนี้ไหม
ก่อนหน้านี้ “อิง ไฉ่เอ๋อร์” ดาราฮ่องกงแบ่งประสบการณ์การเลี้ยงลูกของตนในรายการโทรทัศน์หนึ่งว่า ลูกชายของเธอ “jasper” อยากจะเรียนเปียโน แต่เธอไม่ได้ซื้อเปียโนให้ลูกทันที มีแต่บอกเขาว่า เปียโนแพงมาก ถ้าเรียนดีแม่จึงจะซื้อให้ คือ เมื่อเปียโนกลายเป็นของขวัญ จะทำให้เด็กยิ่งทะนุถนอม และก็ยิ่งชอบยืนหยัดไปเรียน
ตอนท้าย เราจะพูดถึงปัญหาที่เป็นรูปธรรมของการสมัครเรียนพิเศษก็คือ “เงิน” ถ้าให้ลูกไปเรียนพิเศษ ไม่มีเงินจะทำอย่างไรดี หากผู้ปกครองไม่มีเงินส่งลูกไปเรียนพิเศษ เด็กก็จะไม่มีความสนใจหมดโอกาสทำกิจกรรมอื่นแล้ว?
ถ้าผู้ปกครองมีความสามรถด้านเศรษฐกิจ ก็ส่งลูกไปเรียนพิเศษได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้ามีความยากลำบากทางเศรษฐกิจ ก็ควรให้เวลาอยู่กับเด็ก อย่าเล่นมือถือของตน จะอ่านหนังสือให้ฟังหรือว่าพาเด็กไปเที่ยวก็ได้ เพราะว่าความรักจากพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีต่อลูกหลานชนะชั้นเรียนพิเศษข้างนอกทั้งหมด
Yim/kt