2020-07-06 00:08CRI
นายกัว อี้อ๋าง หนุ่มโสดอายุไม่ถึง 30 ปี เดือนมกราคมปี 2018 รับตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนคนที่หนึ่งประจำหมู่บ้านหย่งเซิง ชุมชนฮุ่ยฟา เมืองเต๋อฮุ่ย มณฑลจี๋หลิน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน
นายกัว อี้อ๋างเล่าว่า ปีนี้งานสร้างสรรค์ชนบทสวยงามของหมู่บ้านได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว กำแพงบ้านสีขาว กระเบื้องหลังคาสีดำงามสะอาด ถนนลาดยางมีเข้าถึงทั่วทั้งหมู่บ้าน ทางเท้าก็ปูด้วยอิฐลายดอกไม้ ตอนนี้ถ้าเดินตามถนนในหมู่บ้าน อาจจะหลงคิดไปว่ากำลังอยู่ที่ตำบลทางตอนใต้ที่สวยงามของจีน แต่ที่นี่เมื่อสองปีก่อนไม่ใช่สภาพแบบนี้เลย ตอนนั้นถนนในหมู่บ้านเป็นดิน “พอฝนตกทั้งตัวก็จะเต็มไปด้วยดินโคลน ถ้าฝนไม่ตกก็จะเป็นฝุ่นแทน” การเดินทางที่ยากลำบาก ทำให้ชาวบ้านไม่ได้รับโอกาสเรียนหนังสือ รายได้ก็ไม่มั่นคง ทรัพย์สินส่วนรวมสูญหายไปเยอะมาก ชาวบ้านไม่พอใจและมีความขัดแย้งที่หนักมาก สถานอนามัยของหมู่บ้านไม่มีแพทย์ เวชภัณฑ์และยา ไม่สามารถสนองความต้องการด้านรักษาพยาบาลของชาวบ้านได้ ในหมู่บ้านก็ไม่มีโครงการช่วยบรรเทาความยากจนใดๆ เขาสรุปสภาพที่เขาพบเจอเมื่อมาถึงหมู่บ้านนี้ครั้งแรกให้ฟังนายกัว อี้อ๋างบอกว่า การจะทำให้ให้ชาวบ้านยอมรับตน อาศัยความเอาใส่ใจอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีความรู้ความสามารถที่จะพัฒนาบริการหมู่บ้านด้วย ซึ่งผมต้องเริ่มเรียนรู้ใหม่หมด
เจ้าหน้าที่ประจำหมู่บ้านที่มีประสบการณ์ เจ้าของฟาร์มเลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญในศูนย์ฝึกอบรมเทคโนโลยีทางการเกษตรล้วนเป็นอาจารย์ที่เขาไปขอความรู้ด้วย เมื่อไรมีเวลา เขาก็จะรีบไปเรียนรู้ บางทีต้องคุยกันนานนับครึ่งวัน หมู่บ้านยากไร้จะลดความยากจนได้ จะขาดมาตรการช่วยเหลือที่เจาะจงไม่ได้ นายกัว อี้อ๋างอยากทราบข้อมูลรายละเอียดของทุกครอบครัว จึงเดินทางไปเยี่ยมบ้านของทุกครอบครัว พูดคุยกับผู้ยากไร้แบบต่อหน้าและจดบันทึกไว้หลังจากนั้น นายกั๋ว อี้อ๋างได้กำหนดมาตรการช่วยเหลือแบบ “หนึ่งคน หนึ่งนโยบาย” คนที่สามารถไปรับจ้างทำงานข้างนอกได้ เขาก็ช่วยหาผู้ว่าจ้างให้ ใครสนใจรับการฝึกอบรมวิชาชีพ เขาก็เปิดห้องฝึกอบรมวิชาชีพให้ทันที ใครยากจนเพราะป่วยหนัก เขาก็ช่วยอธิบายนโยบายช่วยเหลือทางสุขอนามัยของรัฐบาล ช่วยให้ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างทันกาล ใครยากจนเพราะขาดการศึกษา เขาก็ช่วยแนะนำนโยบายอุดหนุนการศึกษาของรัฐบาลให้ ใครเป็นผู้พิการทำให้ต้องอยู่ภาวะยากไร้ เขาก็ช่วยจัดการขอรับการอุดหนุนผู้พิการของรัฐบาลเมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 หมู่บ้านหย่งเซิงได้รับคำสั่งจากทางการให้ดำเนินการบริหารแบบปิดหมู่บ้าน ทางเข้าออกหมู่บ้านถูกปิดหมด การจำหน่ายไข่ไก่ของหมู่บ้านจึงกลายเป็นปัญหาใหญ่ เพื่อแก้ไขปัญหาที่ยากลำบากนี้ นายกัว อี้อ๋างได้ติดต่อแฟลตฟอร์มอีคอมเมิร์ส อธิบายถึงคุณภาพที่ดีและกำลังผลิตของไข่ไก่ในหมู่บ้านหย่งเซิง และได้รับการยอมรับจนสามารถจำหน่ายผ่านทางแฟลตฟอร์มอีคอมเมริสได้
ด้วยความพยายามที่เป็นเวลาหลายปี หมู่บ้านหย่งเซิงไม่เพียงพ้นจากภาวะยากจนแล้ว อุตสาหกรรมของหมู่บ้านก็ได้รับการพัฒนา ชาวหมู่บ้านมีรายได้เพิ่มมากขึ้น คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านปรับดีขึ้นต่อเนื่อง ปัจจุบัน หมู่บ้านหย่งเซิงมีสภาพแวดล้อมดีขึ้นมาก มีเวลาว่างจัดกิจกรรมการแสดงต่างๆ บางครั้งก็เชิญคณะแสดงมืออาชีพมาให้ความบันเทิงในหมู่บ้าน และแต่ละปียังมีการจัดกิจกรรมทางศิลปะและให้รางวัลผู้มีผลงานดีเด่นด้วย
นายกัว อี้อ๋างกล่าวว่า ตอนนี้ เพื่อนในเมืองหลายคนบอกว่า อิจฉาชีวิตในหมู่บ้านของตน หมู่บ้านนี้มี 832 ครัวเรือน 3,241 คน ตอนนี้ทุกคนเป็นเพื่อนของเขาทั้งหมด ปีนี้ นายกัว อี้อ๋าง อายุ 28 ปีแล้ว ยังไม่ได้แต่งงาน และไม่มีแฟนด้วย เขาพูดแบบเขินๆ ว่า ทุกวันอยู่กับชาวหมู่บ้าน กินด้วยกัน พักด้วยกัน ทำงานด้วยกัน ไม่มีโอกาสและเวลาไปหาแฟน ไว้รอเสร็จงานช่วยเหลือชาวบ้านให้มีชีวิตที่ดียิ่งๆขึ้นแล้วเรื่องหาคู่ค่อยว่ากัน
Dan/Yim