คำคมคนดัง “เหริน เจิ้งเฟย” ซีอีโอบริษัทหัวเหวย (1)

CRI2019-07-04 09:56:17

图片默认标题_fororder_1.1

ปีนี้ ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เป็นประเด็นดึงดูดสายตาสื่อทั่วโลก ซึ่งต่างคิดเดากันไปต่างๆนานาว่า ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสองประเทศใหญ่นี้ จะส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจจีน สหรัฐฯ ตลอดจนทั่วโลกอย่างไร และเพื่อที่จะเพิ่มแรงกดดันต่อจีน สหรัฐฯได้ประกาศขึ้นบัญชีดำ "บริษัทหัวเหวย " เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และก่อนหน้านี้ แคนาดาก็ได้กักตัว “เมิ่ง หว่านโจว” ลูกสาวของ “เหริน เจิ้งเฟย” ซีอีโอของบริษัทหัวเหวยด้วย บริษัทหัวเหวยจะใช้มาตรการตอบโต้อย่างไร และจะเอาตัวรอดจากความเสี่ยงครั้งใหญ่นี้ได้หรือไม่ จึงกลายเป็นประเด็นที่สื่อทั่วโลกเฝ้าติดตามกัน

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา เหริน เจิ้งเฟย ซีอีโอบริษัทหัวเหวยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวนิตยสารไทมส์ ตอบคำถามต่างๆเกี่ยวกับพฤติกรรมของสหรัฐฯที่มีต่อหัวเหวย ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยี 5G ของหัวเหวยด้วย ซึ่งคลิปนี้มีผู้เข้าชมกว่า 5 แสนคน ซึ่งชาวเน็ตต่างให้การสนับสนุนเหริน เจิ้งเฟย และหัวเหวยมากมาย

ในคลิปดังกล่าว เหริน เจิ้งเฟยตอบคำถามเกี่ยวกับความรู้สึกที่ได้รับเลือกเป็น “100 บุคคลทรงอิทธิพลของโลก ประจำปี 2019” ของนิตยสารไทมส์ว่า ผมต้องการให้หัวเหวยสร้างผลงานที่ดียิ่งไปกว่านี้ ผมพยายามมุ่งหน้าสู่อนาคต ไม่ปรารถนาจะชะลอตัวเพื่อรับรางวัล  รางวัลเต็มโต๊ะสามารถพิสูจน์อะไรได้? พิสูจน์ได้หรือว่าผมทำ 5G ได้ดี?

เขายังกล่าวต่อว่า แม้จะไม่มีตลาดสหรัฐฯ หัวเหวยยังคงติดอันดับหนึ่งของโลก  5G ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง เป็นเพียงเครื่องมือเท่านั้น สำหรับหัวเหวยแล้ว ที่สำคัญที่สุดคือ การให้บริการโลก

หลังจากดูคลิปดังกล่าวแล้ว ชาวเน็ตหลายคนได้ชื่นชมว่า เหริน เจิ้งเฟยเป็นคนน่าเคารพ แม้คนอื่นพยายามทำร้ายลูกสาวและบริษัทเขา แต่เขายังคงรักษาไว้ซึ่งความเมตตาและความรักต่อโลก เป็นคนซื่อสัตย์และพยายามทำงานอย่างสุดความสามารถ บางคนให้ความเห็นว่า คำพูดของเหริน เจิ้งเฟยเต็มไปด้วยความเมตตา ความเกรงใจ และแสดงถึงสติปัญญาของเขา บางคนแซวว่า หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้ประกาศขึ้นบัญชีดำหัวเหวย เราก็ไม่อาจจะมีโอกาสได้ฟังคำกล่าวของเหริน เจิ้งเฟย ต้องขอบคุณทรัมป์ ที่การกระทำของเขาทำให้บริษัทหัวเหวยดูยิ่งใหญ่มากขึ้น

图片默认标题_fororder_1.2

คลิปดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตทั่วโลกอย่างมาก และคำกล่าวของเหริน เจิ้งเฟยก็ได้รับเสียงสนับสนุนอย่างมาก ความจริง ตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้เป็นต้นมา เหริน เจิ้งเฟย ซีอีโอหัวเหวยได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อของประเทศต่างๆต่อเนื่อง เช่น BBCของอังกฤษ CTVของแคนาดา CNNของสหรัฐฯ และCCTVของจีนด้วย ในการให้สัมภาษณ์เหล่านี้ เหริน เจิ้งเฟยแสดงความคิดเห็นน่าสนใจหลายประเด็น ความคิดเห็นเหล่านี้ถูกมองว่ามีวิสัยทัศน์กว้างไกล และแสดงถึงความเชื่อมั่นและความจริงใจของนักธุรกิจจีน

รายการครั้งนี้จะขอแนะนำ สรุปเป็นประเด็นต่างๆโดยสัปเขปดังนี้

1.ไม่ควรใช้นโยบายประชานิยม ซึ่งจะสร้างความเสียหายต่อประเทศชาติ

เหรินเจิ้งเฟยกล่าวว่า ไม่ควรมองว่า “ใช้ผลิตภัณฑ์หัวเหวยก็คือรักชาติ ถ้าไม่ใช้ก็คือไม่รักชาติ” ผลิตภัณฑ์หัวเหวยเป็นเพียงผลิตภัณฑ์เท่านั้น ถ้าชอบก็ใช้ ไม่ชอบก็ไม่ต้องใช้ อย่าให้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง ไม่ควรใช้นโยบายประชานิยม เพราะเป็นการสร้างความเสียหายต่อประเทศชาติ และทำไมเราจึงไม่ควรใช้นโยบายประชานิยม? เหริน เจิ้งเฟยตอบตรงๆว่า เพราะอนาคตของประเทศอยู่ที่การเปิดกว้าง ความคิดแบบประชานิยมจะทำให้เราล้าหลัง

(ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ถ้าหัวเหวยใช้นโยบายประชานิยม รณรงค์ให้ซื้อผลิตภัณฑ์หัวเหวย และไม่ซื้อไอโฟน ก็ย่อมจะได้รับการสนับสนุนจากชาวจีนจำนวนมหาศาล  แต่เหริน เจิ้งเฟยไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว เพราะเห็นว่า อนาคตของประเทศอยู่ที่การเปิดกว้าง ไม่ใช่การปิดประตู)

2.อย่าด่าวิสาหกิจสหรัฐฯ ถ้าต้องการด่าจริงๆ ก็ให้ด่านักการเมืองสหรัฐฯ

เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่บริษัทสหรัฐฯ เช่น Alphabet ยุติความร่วมมือทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์กับหัวเหวย ซึ่งหมายความว่ามือถือรุ่นใหม่ของหัวเหวยไม่สามารถใช้ Google Play, Gmail, YouTube และ Chrome ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตลาดต่างประเทศของหัวเหวยนั้น จึงมีคนจำนวนมากกำลังตำหนิวิสาหกิจสหรัฐฯ ขณะที่เหริน เจิ้งเฟยมองปัญหาอย่างทะลุโปร่งใสว่า สหรัฐฯ เป็นประเทศที่ปกครองด้วยกฎหมายและความยุติธรรม วิสาหกิจต่างๆต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ฉะนั้น ความผิดไม่ได้อยู่ที่วิสาหกิจสหรัฐฯ แต่อยู่ที่นักการเมืองสหรัฐฯ ฉะนั้น ถ้าจะด่าก็ต้องด่านักการเมืองสหรัฐฯ ความจริง เมื่อประกาศยุติความร่วมมือกับหัวเหวยได้ไม่นาน วิสาหกิจสหรัฐฯต่างๆก็ได้ยื่นเรื่องต่อรัฐบาลสหรัฐฯ เรียกร้องให้อนุญาตดำเนินความร่วมมือกับจีนต่อไป

(ที่น่าชื่นชมคือ เหรินเจิ้งเฟยไม่เคยถูกอารมณ์ควบคุม เขาสามารถแยกความโกรธแค้นกับเหตุผลได้ แยกการเมืองกับธุรกิจได้ แยกความรักชาติกับผลิตภัณฑ์ได้ และสามารถแยกสหรัฐฯกับนักการเมืองสหรัฐฯได้ ตลอดจนแยกนักการเมืองสหรัฐฯ กับวิสาหกิจสหรัฐฯ ได้

(Yim/Cici)

—  ข่าวที่เกี่ยวข้อง  —

Not Found!(404)