12.ไม่เห็นด้วยกับคำว่า สร้างสรรค์ด้วยตนเอง

เริ่น เจิ้งเฟยเห็นว่า การสร้างสรรค์ด้วยตนเองนั้นยากที่จะประสบความสำเร็จยิ่ง เพราะเขาเห็นว่าแนวโน้มใหญ่คือ การสร้างสรรค์อย่างเปิดกว้างกำลังเป็นกระแสใหม่แทนที่การสร้างสรรค์ด้วยตนเองแบบปิดประตู และจะเป็นรูปแบบใหม่ของการจัดทรัพยากรโลก เขาเห็นว่า เราไม่ควรปิดประตูแล้ว คิดเอง ทดลองเองและสร้างสรรค์เอง แต่ต้องกอดโลก และร่วมมือกับโลก การทำทุกอย่างโดยอาศัยแรงตัวเองนั้น เป็นความคิดที่ต้องปรับใหม่

13.มองสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาเป็นทรัพย์สิน

สิ่งที่เริ่น เจิ้งเฟยพยายามเน้นคือ หากมองสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาเป็นทรัพย์สิน การละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาก็เป็นการขโมยทรัพย์ ถ้าเป็นบรรยากาศเช่นนี้ก็จะช่วยกระตุ้นการสร้างสรรค์ของเรา เราต้องเข้าใจว่า การคุ้มครองสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาในระยะยาวของประเทศ และนี่ไม่ได้เป็นข้ออ้างที่ประเทศตะวันตกควบคุมการพัฒนาของเรา

14.การแข่งขันทางเทคโนโลยีเป็นการแข่งขันที่สันติ

เริ่น เจิ้งเฟยเห็นว่า แม้ว่าหัวเหวยถูกกดดันก็จริง แต่การแข่งขันทางเทคโนโลยีเป็นการแข่งขันที่สันติ ถ้าเราผลิตผลิตภัณฑ์ที่ดี คนอื่นไม่อาจจะปฏิเสธความร่วมมือกับคุณได้

15.การที่เราไม่ได้รับการยอมรับจากประเทศตะวันตก เพราะยังทำไม่ดีพอ

เริ่นเจิ้งเฟยมีความรู้สำนึกมองย้อนพิจารณาตนเองอยู่เสมอ เขากล่าวว่า หลายปีมานี้ เราใช้วิถีคิดแบบจีนทำความเข้าใจโลก เดาวัตถุประสงค์ของประเทศตะวันตก ประเทศตะวันตกจึงเห็นว่าเราใช้ท่าทีรุกราน พวกเขาจึงพยายามสร้างกำแพงให้สูงขึ้น และหนาขึ้น การแก้ปัญหาของเราในประเทศตะวันตก ก่อนอื่นต้องเข้าใจค่านิยมของประเทศตะวันตก และเข้าใจพวกเขาตามจุดยืนของเขา

16.เศรษฐกิจการตลาด = ลูกค้า+ผลิตภัณฑ์+กฎหมาย

อะไรคือเศรษฐกิจการตลาด เริ่นเจิ้งเฟยเห็นว่า มีปัจจัยประกอบ 3 ด้าน ได้แก่ ลูกค้า ผลิตภัณฑ์และกฎหมาย ซึ่งสะท้อนถึงแก่นแท้ของเศรษฐกิจการตลาดกับการแลกเปลี่ยนอย่างอิสระภายใต้เงื่อนไขด้านกฎเกณฑ์ มีลูกค้าเป็นตัวแทนตลาด ผลิตภัณฑ์เป็นตัวแทนผลิตภัณฑ์กับการบริการ และกฎหมายเป็นตัวแทนกรอบข้อตกลงของสังคม

17.เคารพลูกค้าเหมือนความศรัทธาทางศาสนา

เริ่นเจิ้งเฟยเห็นว่า เคล็ดลับของความสำเร็จหัวเหวยมีประการเดียวคือ มองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และสร้างคุณค่ากับลูกค้า มีวิสาหกิจมากมายเรียนรู้จากหัวเหวย แต่เรียนเฉพาะสิ่งผิวเผินเท่านั้น ไม่สามารถที่จะยืนหยัดหลักการว่า มองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และสร้างคุณค่ากับลูกค้า

18.สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง (Real economy)คือ ความน่าเชื่อถือ

เริ่นเจิ้งเฟยกล่าวว่า รากฐานของแบรด์เนมคือความน่าเชื่อถือ ขอให้มีความน่าเชื่อถือก็จะอยู่รอดได้ ประสบการณ์ของหัวเหวยที่แท้แล้วก็คือ ความน่าเชื่อถือ

19.ภารกิจหลักของการปฏิรูปด้านอุปทานที่สำคัญที่สุดคือ ยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์

เกี่ยวกับการปฏิรูปด้านอุปทาน เริ่นเจิ้งเฟยตอบตรงๆว่า ภารกิจหลักของการปฏิรูปด้านการอุปทาน ที่สำคัญที่สุดคือยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ ซึ่งการจะยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ ก่อนอื่นต้องยกระดับต้นทุนให้สูงขึ้น เพราะต้นทุนที่ต่ำไม่อาจจะได้คุณภาพสูง การผลิตของจีนเมื่อก่อนตั้งเป้าให้ผลิตสินค้าราคาต่ำ ทุกวันนี้เราต้องปรับทิศทางใหม่

20.ให้โอกาสการพัฒนากับคู่ค้าทุกคน

หลายคนไม่เข้าใจว่าทำไมราคามือถือหัวเหวยสูงขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้เริ่นเจิ้งเฟยอธิบายว่า เราต้องไม่กดราคาให้ต่ำที่สุด เพราะถ้ากดราคาให้ต่ำที่สุด ก็จะทำให้บริษัทที่เกี่ยวข้อง เช่น บริษัทผลิตชิ้นส่วนมือถือต่างๆอยู่รอดไม่ได้ ท้ายที่สุดตัวเราเองก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน เราต้องสร้างตัวเป็นร่ม ให้บริษัทเล็กๆภายใต้ร่มเงาของเราสามารถเติบโตได้ด้วยกัน

21.คนที่ไม่รู้จักยุทธศาสตร์เชิงรับ ก็ย่อมไม่เข้าใจยุทธศาสตร์เชิงรุก

เริ่นเจิ้งเฟยเน้นมาโดยตลอดว่า เราต้องรู้จักยอมทำบางอย่าง และเลิกทำบางอย่าง ซึ่งหมายถึงว่าต้องเข้าใจที่จะสละบางสิ่งบางอย่างด้วย สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ไม่อาจจะก้าวขึ้นเป็นระดับชั้นนำของโลก ก็ไม่ควรลงทุนทั้งกำลังทรัพย์และกำลังคนอีก

(Yim/Cici)