นายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า
"ต้องให้เด็กทุกคนมีโอกาสเข้าโรงเรียน และเรียนได้ดี"
สัวสดีค่ะท่านผู้ฟัง เมื่อไม่นานมานี้ ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอได้สัมภาษณ์ผู้แทนชนชาติส่วนน้อยที่มาเข้าร่วมการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติที่กรุงปักกิ่ง รายการวันนี้ ขอเชิญท่านฟังบทสัมภาษณ์ครั้งนี้ค่ะ
นายสวี ชินเหิงผู้แทนชนชาติมู่เหล่าจากกวางสี นางหยางเฉิงสือผู้แทนชนชาติตุ้งจากมณฑลกุ้ยโจวและนางหลูเยี่ยนเฟินผู้แทนชนชาติฮานี้จากมณฑลยูนหนันกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า
"เรื่องที่เราสนใจที่สุดคือ ปัญหาการศึกษาของลูกหลาน"
อำเภอหยวนหยางของมณฑลยูนหนันตั้งอยู่ในเขตเขาที่ติดชายแดนและอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1700-2800 เมตรขึ้นไป การคมนาคมไม่สะดวกและอากาศก็เลวร้าย ทำให้เศรษฐกิจยังล้าหลังมาก รายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปีมีเพียง 900 หยวนเท่านั้น เรื่องการศึกษาของเด็กจึงมีปัญหาไม่น้อยทีเดียว เช่น เด็กยากจนไม่มีเงินจ่ายค่าเล่าเรียน ทำให้ต้องหยุดเรียน ในบางพื้นที่ เด็กต้องเดินทางไกลไปโรงเรียนใช้เวลาไปกลับ 4-5ชั่วโมง บางโรงเรียนมีครูคนเดียว มีห้องเรียนห้องเดียว มีนักเรียนไม่ถึง 10 คน ขาดอุปกรณ์การเรียนการสอนด้วย
คุณหลูเยี่ยนเฟินกล่าวว่า
"หลายปีมานี้ รัฐบาลได้ลงทุนการศึกษามากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะให้สิทธิพิเศษแก่เขตชนชาติส่วนน้อยมากขึ้น ที่เด่นชัดคือ ยกเว้นค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดของการศึกษาภาคบังคับ ทั้งให้ค่าครองชีพแก่นักเรียนยากจนให้อยู่หอพักโรงเรียนฟรี ทำให้เด็กยากจนสามารถเรียนจบสำเร็จการศึกษาได้"
คุณหลูเยี่ยนเฟินยังเล่าให้ฟังว่า อำเภอหยวนหยางเริ่มใช้ระบบการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี ตั้งแต่ปี 2006 ทั้งอำเภอมีนักเรียน 64,205 คน แต่นักเรียนยากจนชั้นประถมมีร้อยละ72.8 ชั้นมัธยนต้นมีร้อยละ 85.2 นอกจากนี้ หลังจบการศึกษาภาคบังคับแล้ว ก็มีปัญหาค่าเล่าเรียนในการจะเรียนต่อ ฉะนั้น การแก้ปัญหาการศึกษาจะอาศัยแต่งบประมาณรัฐบาลอย่างเดียวยังไม่พอ ต้องระดมทั่วทั้งสังคมให้ช่วยเหลือเต็มที่
อำเภอจิ่งตงของมณฑลยูนหนัน ประชากรร้อยละ 95 เป็นชนชาติหยีโรงเรียนมัธยมจิ่งตงที่ 1 เป็นโรงเรียนมัธยมปลาย ค่าเล่าเรียน 500 หยวนต่อเทอม แต่สำหรับครอบครัวยากจน 500 หยวนก็ไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ขณะนี้โรงเรียนมีนักเรียน 2399 คน แต่ละปี ทางโรงเรียนจะยกเว้นค่าเล่าเรียนให้นักเรียนดีเด่นกว่า 100 คน นอกจากนี้ ทางโรงเรียนยังใช้ความพยายามไม่ลดละเพื่อช่วยเหลือนักเรียนยากจนให้สำเร็จการศึกษาได้
1 2
|